ผู้ชุมนุมต่อต้านการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ได้เปลี่ยนแผนเคลื่อนขบวนจะไปชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ก็ถูกตำรวจ คฝ. ขวางไว้ ไม่ให้เข้าไป ซึ่งได้มีการควบคุมตัวผู้ชุมนุมบางส่วนที่พยายามฝ่าแนวกั้นออกจากพื้นที่การชุมนุมด้วย
ผู้ชุมนุมที่มารวมตัวทำกิจกรรมต่อต้านการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC ซึ่งปักหลักอยู่ที่บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เมื่อวาน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็ได้เปลี่ยนแผนเคลื่อนขบวนไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แทนที่หมายเดิม ที่มีแผนจะเคลื่อนขบวนไปให้ใกล้แยกอโศกมนตรีให้ได้มากที่สุด
แต่ขบวนผู้ชุมนุมก็ต้องหยุดอยู่บนถนนดินสอ ปากทางออกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เนื่องจากมีกำลังตำรวจ คฝ.วางแนวกั้นห้ามผ่าน ซึ่งก็ได้มีการกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าไป ให้อยู่หลังแนวกั้นตำรวจเพื่อความปลอดภัย โดยทางตำรวจยืนยันจะไม่ใช้ความรุนแรงหากผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ก่อความวุ่นวาย ซึ่งผู้ชุมนุมพยายามเจรจาขอตำรวจผ่านแนวกั้น เพื่อไปรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่ห่างไปไม่ถึง 100 เมตร แต่ทางตำรวจไม่อนุญาต จึงทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนไม่พอใจ มีการดันแนวกั้นและรถตำรวจ ตำรวจจึงต้องเข้าควบคุมตัวผู้ชุมนุมประมาณ 10 คน ที่ก่อความวุ่นวายออกมาจากบริเวณแนวกั้น เพื่อไม่ให้ เกิดความรุนแรงลุกลามบานปลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ วรวรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้า ถูกควบคุมตัวขึ้นรถตำรวจออกไปทันที
ต่อมาในเวลา 10:30 น. ทางตำรวจได้ใช้รถเครื่องขยายเสียงประกาศ ขอให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมภายในเวลา 11:00 น. หรือให้กลับไปชุมนุมที่ลานคนเมืองเช่นเคย ซึ่งจนถึงขณะนี้ผู้ชุมนุมก็ยังปักหลักอยู่ที่บริเวณดังกล่าว ยังไม่ได้มีการประกาศจะยุติการชุมนุมแต่อย่างใด
ด้าน ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ หนึ่งในแนวร่วมกลุ่มราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะมีการเคลื่อนขบวนว่า จากการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ที่ไปยื่นหนังสือถึงผู้นำประเทศที่มาร่วมประชุมเอเปคที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แล้วมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้มข้น และตรึงกำลัง ทำให้การเดินขบวนในวันนี้ต้องรัดกุม และมีการปรับแผนให้เหมาะสม ซึ่งทางกลุ่มผู้ชุมนุม จะมีเจ้าหน้าที่ในการไปเจรจากับทางตำรวจเพื่อขอเปิดเส้นทางและลดการปะทะ เพราะตอนนี้จะเห็นได้ว่า มีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน มาสังเกตุการณ์พร้อมโล่ และยืนยันว่าตอนนี้มวลชนมีความพร้อมในการเคลื่อนขบวนมาก
ส่วนข้อเรียกร้องที่จะไปยื่นให้กับผู้นำประเทศที่มาร่วมประชุมเอเปค ยังยืนยันใน 3 ข้อหลัก และมุ่งเน้นมนประเด็นการคัดค้านนโยบาย BCG ที่รัฐบาลจะนำไปเจรจาในการประชุม ว่าเป็นนโยบายที่ไม่ได้มาจากความต้องการของประชาชนและประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม
ซึ่ง ภัสราวลียังยืนยันว่า การไปยื่นขอเสนอนั้นไม่ได้ไปขัดขวางการประชุมหรือไปขับไล่ผู้นำประเทศต่างๆ ที่มาร่วมประชุม
ขณะที่ โลกออนไลน์ เกิดแฮชแท็ก #ม็อบ18พฤศจิกา65 โดยติดอันดับ 2 เทรนด์ทวิตเตอร์ไทย (ข้อมูลเมื่อเวลา 11.50 น.) โดยมีการโพสต์ภาพ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ โดยภัสราวลี หรือมายด์ ทวีตข้อความว่า “มันยิงพี่น้องเรา ทั้งที่เราไม่มีอาวุธ ประเด็นทรัพยากร กับ ความไม่ชอบธรรมของประยุทธ์ มันเปราะบางถึงขนาดพูดไม่ได้เลยเหรอ?”