มีรายงานว่า ภายหลังจากที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ออกมายอมรับว่าชัยณัฏร์ กรณ์ชายานันท์ เจ้าของผับดังย่านยานนาวา ที่มีคนจีน 100 กว่าคน เข้าไปมั่วสุมยาเสพติดได้เคยบริจาคเงินให้พรรคพลังประชารัฐ 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564
แล้ว นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทุนจีนแปลงสัญชาติแล้วบริจาคเงินให้พรรคการเมือง แต่ต้องดูว่า ขณะบริจาคชัยณัฐร์ สละสัญชาติจีนแล้วหรือไม่ เพราะหากยังถือ 2 สัญชาติ แล้วมาบริจาคเงินให้พรรคการเมือง สุ่มเสี่ยงต่อการเลี่ยงกฎหมาย พรรคการเมืองที่รับบริจาคจะมีความผิดตามมาตรา 74 อันอาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ ตามมาตรา 92
นิพิฏฐ์ ยังระบุว่าต้องดูว่าผับของชัยณัฐร์จัดตั้งเป็นนิติบุคคลชื่อใด มีใครถือหุ้น หรือมีนอมินีถือหุ้นแทนต่างด้าวหรือไม่ และการบริจาคเงิน 3 ล้านบาท เป็นเงินส่วนตัว หรือเงินที่ถอนมาจากนิติบุคคล ที่มีนอมินีเป็นผู้ถือหุ้น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นนิติบุคคลที่เปิดผับ ก็ถือนิติบุคคลต่างด้าว การบริจาคเงินก็ผิดตาม มาตรา 74(2) ยุบพรรคได้
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือความเห็น จากแกนนำพรรคพลังประชารัฐเพิ่มเติมแต่อย่างใด โดยไพบูลย์ นิติตะวัน ทีมกฎหมายของพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว ระบุเพียงว่า เป็นไปตามที่นสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ไว้ และไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน
ส่วนที่ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะไปยื่นให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบการบริจาคเงิน เรื่องนี้ ทีมกฎหมายยังไม่ต้องเตรียมการอะไร โดยให้ศรีสุวรรณ ยื่นไปตามขั้นตอน
มาตรา 74 ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจาก บุคคลผู้มีไม่มีสัญชาติไทย นิติบุคคลตามกฏหมายต่างประเทศ ที่ประกอบธุรกิจ หรือกิจการ หรือจดทะเบียนสาขาอยู่ในหรือนอกราชอาณาจักร นิติบุคคลที่จดทะเบียนในราชอาณาจักร โดยมีบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยมีทุนหรือเป็นผู้ถือหุ้นเกินร้อยละสี่สิบเก้า ในกรณีที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัด ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้พิจารณาตามที่ปรากฏในทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าว หุ้นที่ไม่ปรากฏชื่อผู้ถือหุ้นหรือถือโดยตัวแทนของบุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อ ให้ถือว่า เป็นหุ้นที่ถือโดยผู้ไม่มีสัญชาติไทย
คณะบุคคล หรือนิติบุคคลที่ได้รับทุนหรือได้รับเงินอุดหนุนจากต่างประเทศ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดำเนินกิจการ เพื่อประโยชน์ของบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย หรือซึ่งมีผู้จัดการ หรือกรรมการเป็นบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคลที่ได้รับบริจาค เพื่อดำเนินกิจการของพรรคการเมือง หรือเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองจากบุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคลตาม (1) (2) (3) หรือ (4) บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคลที่มีลักษณะทำนองเดียวกันกับ (1) (2) (3) (4) หรือ (5) ตามที่คณะกรรมการกำหนด ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับ กรณีสมาชิกรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดดังกล่าวที่มิใช่เพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมือง