Skip to main content

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้รับชมภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง '21 grams' ออกฉายราวๆ ปี 2003 ที่แสดงนำโดย นาโอมิ วัตต์ กับ ฌอน เพนน์ เรื่องราวพูดถึงผู้หญิงที่สูญเสียครอบครัวจากอุบัติเหตุ ที่ได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งที่ป่วยด้วยโรคหัวใจที่ได้รับบริจาคหัวใจจากสามีของผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งในภาพยนตร์ได้ให้ความสำคัญกับน้ำหนักที่หายไปหลังจากคนเราตายไปแล้วนั่นคือ 21 กรัม สร้างความสงสัยว่าตัวเลขที่หายไปนั้นคือน้ำหนักของวิญญาณหรือเปล่า

แล้วความจริงวิญญาณคนเรามีน้ำหนัก 21 กรัมตามที่ว่ามาหรือไม่ เพราะไม่มีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้เลย แม้แต่วิทยาศาสตร์เองก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าวิญญาณมีอยู่จริงหรือเปล่า และยังไม่สามารถชั่งน้ำหนักได้อีกด้วย แต่ก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นกับแพทย์คนหนึ่งที่พยายามหาคำตอบให้กับคำถามที่ว่านี้

ย้อนกลับไปราวศตวรรษที่ผ่านมาในดอเชสเตอร์ ย่านบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา นายแพทย์ดันแคน แมคโดอัลล์ แพทย์ผู้มีชื่อเสียงในขณะนั้น เกิดคำถามในหัวว่า ถ้ามนุษย์มีวิญญาณ เขาเลยคิดว่าวิญญาณเหล่านั้นต้องใช้พื้นที่ในร่างกาย และก็สามารถชั่งน้ำหนักได้จริงไหม?

แพทย์แมคโดอัลล์ ได้หาคำตอบข้อสงสัยที่ว่านี้ และเขียนลงในบทความทางวิทยาศาสตร์ที่เผยแพร่ในปี 1907 ว่า เนื่องจากสสารที่เราศึกษาในสมมติฐานเชื่อมโยงกับร่างกายมนุษย์ไปจนตาย จึงมีเหตุผลว่าที่จะคิดได้ว่าสสารนั้นต้องเป็นสสารที่มีแรงโน้มถ่วง ดังนั้นจึงสามารถตรวจพบได้โดยการชั่งน้ำหนักของมนุษย์เมื่อตายไปแล้ว

แมคโดอัลล์ ได้ร่วมมือกับทีมเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรักษาวัณโรคระยะสุดท้าย ที่ในตอนนั้นรักษาไม่หาย โดยคนไข้รายแรกของเราเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 1901 พร้อมกับน้ำหนักที่หายไป 21.2 กรัม ส่วนคนไข้รายต่อมาสูญเสียน้ำหนักไป 14 กรัม หลังจากหยุดหายใจไป 15 นาที ส่วนรายที่ 3 น้ำหนักหายไป 2 ครั้ง คือ 14 กรัม และ 28.3 กรัม ห่างกัน 1 นาที

แต่หลังจากนั้นในคนไข้รายที่ 4 5 และ 6 ที่เสียชีวิตนั้น ประสบปัญหาเรื่องของตาชั่งไม่ได้มาตรฐาน และได้มีการแทรกแซงจากคนไม่เห็นด้วยกับการทดลองของะเขา ทำให้แมคโออัลล์ ไม่ได้นำผลของทั้ง 3 รายนี้ไปใส่ไว้ในการทดลองด้วย 

นอกจากนี้ แมคโดอัลล์ ยังได้ทำการทดลองกับสุนัขเช่นกัน ที่เขาพบว่าเมื่อสุนัขตาย น้ำหนักของพวกมันไม่ได้หายไปไหนเลย
 
ทั้งนี้ การศึกษาของแมคโดอัลล์ มีขนาดกลุ่มตัวอย่างที่เล็กมาก และผลลัพธ์ของเขาก็กระจัดกระจาย และเขายังยอมรับว่า การทดลองของเขาจำเป็นต้องมีการชั่งน้ำหนักเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผล ว่าวิญญาณมีน้ำหนัก แต่ไม่ได้ทำอีกด้วยเหตุผลทางจริยธรรม

แต่เคยมีฟาร์มพยายามทดลองกับแกะตามหนังสือของแมรี โรช เรื่อง "Spook: Science Tackles the Afterlife" (W. W. Norton & Co., 2005) โดยชั่งน้ำหนักตอนมีชีวิตกับตอนตาย พบว่านอกจากน้ำหนักไม่หาย ยังเพิ่มขึ้นด้วย ก่อนจะกลับมาหนักเท่าเดิม

โรช ยังรายงานด้วยว่า ดร.เกอร์รี นาห์อัม วิศวกรเคมีและแพทย์ที่อยู่ในโรงเรียนแพทย์ Duke University School of Medicine ในขณะนั้น ได้พัฒนาสมมติฐานว่าวิญญาณหรืออย่างน้อยจิตสำนึกจะต้องเชื่อมโยงกับข้อมูลซึ่งเทียบเท่า เป็นพลังงานจำนวนหนึ่ง เนื่องจากสมการ E = mc ^2 กำหนดว่าพลังงานเท่ากับมวลคูณความเร็วของแสงกำลังสอง พลังงานนี้สามารถชั่งน้ำหนักได้ด้วยเครื่องมือแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความละเอียดอ่อนเพียงพอ แต่โชคไม่ดีที่ นาห์อัม ไม่ได้รับเงินทุนสำหรับการทดลองที่จะพิสูจน์ว่าเขาคิดถูกหรือไม่ 

ที่มา How much does the soul weigh?