ทางการของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2565 เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า จะเดินทางไปยังเกาะเชจู ประเทศเกาหลีต้องกรอก K-ETA เป็นระบบการกรอกข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศแบบออนไลน์สำหรับประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า
สาเหตุที่ทางการเกาหลีออกมาตรการดังกล่าว เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้มีนักท่องเที่ยวคนไทยหลายสิบคนที่เดินทางไปยังเกาะเชจูแล้วหลบหนีออกจากกรุ๊ปทัวร์ หรือแม้กระทั่งถูกผลักดันกลับประเทศเพราะพยายามอยู่เกินที่กำหนด
ระบบ K-ETA เป็นระบบออนไลน์เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าใช้กรอกข้อมูลก่อนเดินทางเข้าไปยังเกาหลีใต้ โดยต้องบอกจุดประสงค์ของการเดินทางว่าเพื่อท่องเที่ยว, เยี่ยมคนรู้จัก หรือทำธุรกิจ โดยนักท่องเที่ยวต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลที่จำเป็นผ่านเว็บไซต์ หรือผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้
ทั้งนี้ ระบบ K-ETA ถูกนำมาใช้ครั้งแรกเมื่อ ก.ย. ปีที่แล้ว (64) สำหรับ 112 ประเทศที่มีข้อตกลงยกเว้นวีซ่าหรือข้อตกลงอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันเพื่ออนุญาตให้เข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า แต่เกาะเชจูถูกยกเว้น เพราะสถานะทางกฎหมายที่ระบุว่าเป็นเขตปกครองตนเอง แต่ทางกระทรวงยุติธรรม กล่าวก่อนหน้านี้ว่ากำลังผลักดันให้นำ K-ETA มาใช้กับเชจูเช่นกัน การให้กรอก K-ETA ดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อคัดกรองการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นโดยชาวต่างชาติที่ใช้ประโยชน์จากโครงการยกเว้นวีซ่า
และมีรายงานว่า ในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวไทย 38 คนที่เดินทางมาเกาะเชจูหายตัวไป และปรากฏว่า 26 คนในนั้นถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเมืองอินชอน และยังไม่นับคนไทยอีกประมาณ 90 คนที่มาจากกลุ่มทัวร์ต่างๆ ด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานว่า กรุ๊ปคนไทย 106 คน ถูกส่งตัวกลับประเทศไทย หลังเดินทางไปยังเกาะเชจู หลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของเกาเชจูสงสัยว่าคนไทยกลุ่มนี้จะลักลอบเข้าไปทำงานแบบผิดกฎหมาย และก่อนหน้านี้มีคนไทย 115 คนถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเกาะเชจูมาแล้วด้วยเหตุผลเดียวกับข้างต้น โดยสื่อของเกาหลีใต้ รายงานว่า เกาะเชจูกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของกลุ่มคนลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายจากประเทศไทย ด้วยวิธีการปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 90 วัน