Skip to main content

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ประชุมได้พูดคุยประเด็นการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไรบ้าง ว่า ตนได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงการทำงานของคณะรัฐมนตรี กรณีการดำรงตำแหน่งของนายกฯ หลังประธานสภายื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 22 ส.ค. และศาลรัฐธรรมนูญจะมีการประชุมตามปกติในวันที่ 24 ส.ค. ซึ่งอาจจะมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาหรือไม่รับก็ได้ แต่คิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่รับ ซึ่งหากรับก็จะตามมาว่าจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวหรือไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ศาลคงไม่สั่งในวันที่ 24 ส.ค. เพราะมีกระบวนการต้องไต่สวนสองสามวัน และหากสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวก็ต้องหยุด และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะเป็นผู้รักษาการนายกฯ และทำงานร่วมกับคณะรัฐมนตรีที่เหลืออยู่ซึ่งในนั้นก็รวมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ ด้วย แต่หากศาลไม่ได้พูดอะไรก็ไม่ต้องหยุดก็ปฏิบัติหน้าที่ไปตามปกติจนกว่าศาลจะวินิจฉัยซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แต่เชื่อว่าจะเร็ว

โดยวิษณุ กล่าวว่า ขอให้ฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่มีอะไรเสี่ยงอะไรผิดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ว่าศาลจะสั่งให้หยุดหรือไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะปฏิบัติหน้าที่ไปอีกสักพักแล้วศาลวินิจฉัย สมมติว่าครบ 8 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.65 สิ่งที่คณะรัฐมนตรีดำเนินการไประหว่างนั้นไม่มีปัญหาอะไร ไม่กระทบการใดที่ทำมาก่อนที่ศาลจะมีคำวินิจฉัย รวมไม่กระทบเงินเดือนของนายกฯ แต่อย่างใด ตามที่มีการระบุไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 82 แม้พล.อ.ประยุทธ์ จะพ้นไปคณะรัฐมนตรีก็พ้นด้วยแต่ก็เป็นคณะรัฐมนตรีรักษาการก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทั้งหมด ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จะทำหน้าที่รักษาการหรือไม่นั้นตามกฎหมายสามารถทำได้แต่ทางปฏิบัติอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกปฏิบัติหรือไม่ ซึ่งปกติก็ไม่ควร อาจให้คนอื่นปฏิบัติหน้าที่แต่ขณะนั้น ประธานรัฐสภาก็ต้องหานายกฯ คนใหม่ตามบัญชีรายชื่อเดิมที่พรรคการเมืองเสนอไว้ 

วิษณุ กล่าวอีกว่า เมื่อตนชี้แจงจบที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็รับทราบโดยไม่ได้มีความกังวลใดๆ ทุกคนเพียงแต่รับฟัง เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ แสดงท่าทีจะแสดงสปิริตอะไรก่อนมีคำวินิจฉัยออกมาหรือไม่ วิษณุ ระบุว่า ไม่มีอะไร พอตนชี้แจงเสร็จ นายกฯ ก็บอกไม่ได้กังวลอะไร ขอให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ไปตามปกติ ไม่ต้องเป็นห่วงไม่ต้องกังวลอะไร จะเป็นอย่างไรก็ขึ้นกับศาล รวมถึงกำชับให้สภาฯโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณให้ผ่าน อย่าให้การประชุมล่มลง และกำชับให้ทุกพรรคกำชับส.ส.ให้เข้าร่วมประชุมให้ครบจะได้เสร็จ

ทั้งนี้กรณีที่การดำรงตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ 5 ปี แรกเป็นการเลือกโดย สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ขณะที่ 3 ปีหลังเป็นการโหวตโดยรัฐสภา มีนัยอย่างไรหรือไม่ วิษณุ ระบุว่า มีนัย แต่ไม่ขอพูดแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากเป็นนัยทางบวกหรือลบ วิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบแต่มีนัย ตนพูดได้แค่นี้ รวมถึงหากศาลใช้สองวิธีการเลือกนายกฯมานับรวม 8 ปีไม่ได้ใช่หรือไม่ วิษณุ ระบุว่า ได้ทั้งนั้น หรือไม่นับก็ได้