การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่สอง ธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กรณีนาฬิกาหรูที่ไม่สามารถพิสูจน์ความเป็นเจ้าของและการตรวจสอบของหน่วยงานอิสระส่อว่าจะถูกแทรกแซงโดยบารมีของพล.อ.ประวิตรว่า การตรวจสอบนาฬิกาหรูที่พล.อ.ประวิตรครอบครอบ แม้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ตรวจสอบแล้ว แต่ไม่สามารถตรวจสอบให้เกิดความกระจ่างชัดในสังคมได้ และตนขอตั้งข้อสังเกตว่าการ ป.ป.ช. นั้นมีความเป็นอิสระจริงหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบนั้นพบว่า ป.ป.ช. ถูกตั้งมาในช่วง คสช. จึงถูกสร้างระบบควบคุม และใช้บารมีดำเนินการเพราะหากเป็นมาตรฐานเดียวกันต้องตัดสินคดีด้วยมาตรฐานเดียวกัน
“ผมขอถามพล.อ.ประวิตร ว่า กรมศุลากรซื้อนาฬิกาคืน 19 ล้านบาท เป็นอำนาจของท่านใช่ไหมส่งแค่ภาพถ่ายมาไม่ยอมส่งตัวจริงมาเป็นอำนาจท่านใช่หรือไม่ ซึ่งผิดปกติในการตรวจสอบ ถ้าตอบไม่ได้และองค์กรที่บังคับใช้กฎหมายทำให้ประชาชนกระจ่างชัดว่า นาฬิกาหรู 20 เรือนเป็นของใครกันแน่ ผมขอถามว่าพล.อ.ประวิตรใช้อำนาจแทรกแซงองค์กรตรวจสอบใช่หรือไม่ ทั้งนี้ผมขอให้ประชาชนช่วยค้นหาความจริง” ธีรัจชัย กล่าวพร้อมโชว์ภาพนาฬิกา จำนวน 20 เรือน พร้อมเลขรหัส
ทั้งนี้ระหว่างที่ธีรัจชัย อภิปรายนั้น พบว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลุกประท้วงธีรัจชัยเป็นระยะๆ โดยมองว่าเป็นเรื่องเก่าที่อภิปรายแล้วและป.ป.ช.เคยตัดสินแล้ว ทั้งนี้มีช่วงหนึ่งของการประท้วง นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ประท้วงศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ที่ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ว่า ทำหน้าที่ไม่ได้เรื่อง ทำให้ศุภชัยขอให้ถอนคำพูด แต่นิโรธ กล่าวย้ำว่า “ข้อบังคับได้เรื่อง แต่ท่านไม่ได้เรื่อง แต่หากจะให้ถอน จะถอนให้” โดยนายศุภชัย ซึ่งมีสีหน้าเคร่งขรึม กล่าวด้วยที่เสียงที่เคร่งขรึมว่า การทำงานของตนตลอด 3 ปีพิสูจน์ได้”
พล.อ.ประวิตร ชี้แจงทันที ว่า “ข้อกล่าวหาผู้อภิปราย เรื่องนาฬิกาทั้งหมดไม่สามารถตอบได้เพราะไม่ก้าวล่วงเรื่อง ป.ป.ช. ได้ เพราะไม่ได้เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีที่มีเพื่อนดีสักคน คุณคงไม่เคยมี ผมมีเพื่อนดี คบมาตั้งแต่ประถม ดังนั้นเรามีอะไร ลูกสาวเหมือนลูกผม เรื่องปฏิวัติผมไม่เกี่ยวข้อง คนที่เกี่ยวคือคนนี้ นายกฯ คนเดียว อนุพงษ์ไม่เกี่ยว คุณเอาผมไป ผมไม่รู้เลยว่าาจะปฏิวัติเมื่อไร 3ป. พูดไปเรื่อย เอาความจริงดีกว่า ผมมีเพื่อนดีๆที่ให้ผมยืมอะไรได้ ส่วนจะตอบกับ ป.ป.ช. ไม่อาจก้าวล่วงได้”
ทั้งนี้ในช่วงท้าย มีสไลด์ที่ประกอบการอภิปรายของพล.อ.ประวิตรขึ้นมา แต่ พล.อ.ประวิตรไม่ทันได้อภิปรายประกอบสไลด์ดังกล่าวที่ระบุว่า “เป็นนาฬิกาของเพื่อนที่รักกันมากให้ยืมมาใส่ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นที่สนิทสนมกัน ตั้งแต่เรียนในชั้นมัธยมฯ ที่โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล ได้ติดต่อคบหาากันอย่างใกล้ชิด สนิทสนมต่อเนื่องกันมา เป็นระยะเวลามากกว่า50ปี”