Skip to main content

"ฉันรู้และแน่ใจว่าไม่ปลอดภัย... แต่ฉันก็ไม่สนใจเพราะนี่เป็นอนาคตของคนรุ่นใหม่" 

"ในประเทศของฉัน เมียนมา ในขณะที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้ มีผู้คนจำนวนมากได้เสียชีวิตในวันนี้ ฉันรู้สึกเสียใจอย่างมากกับประชาชนที่เสียชีวิต" 

"ฉันอยากจะบอกว่า ได้โปรดช่วยเมียนมา เราต้องการความช่วยเหลือจากนานาชาติตอนนี้" 

ในขณะที่กองทัพเมียนมาจัดพิธีสวนสนามอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในวันกองทัพเมียนมา 27 มี.ค. โดย บีบีซีไทย รายงานว่า นิเคอิ เอเชีย รายงานว่า มี 7 ประเทศที่ส่งเจ้าหน้าที่ทหารเป็นตัวแทนเข้าร่วมงาน ประกอบด้วย จีน, อินเดีย, ปากีสถาน, บังกลาเทศ, เวียดนาม, ลาว และไทย ส่วนรัสเซีย ส่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

ค่ำคืนวันเดียวกัน ฮัน เลย์ มิสแกรนด์เมียนมา หนึ่งในผู้เข้าร่วมการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 กล่าวสุนทรพจน์ทั้งน้ำตาบนเวทีประกวดรอบตัดสินมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 ที่โชว์ ดีซี ฮอลล์  แสดงจุดยืนเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านคณะรัฐประหารเมียนมา พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติช่วยเหลือประเทศบ้านเกิดของเธอ

::: ความกล้าหาญของเธอ กลายเป็นไวรัลบีบหัวใจผู้คนทั่วโลก :::

"ฉันพยายามจะกลับไป และฉันรู้และแน่ใจว่าฉันไม่ปลอดภัย เพราะฉันได้พูดถึงกองทัพและสถานการณ์ในเมียนมามากมาย"  

ฮัน เลย์ ที่เข้ารอบ 20 คนสุดท้าย บอกภายหลังการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยมี อัลเบน่า แอพเพีย มิสแกรนด์สหรัฐเมริกา ได้ดำรงตำแหน่งมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล คนที่ 8 ของโลก ขณะที่นางงามขวัญใจชาวไทย น้ำ-พัชรพร จันทรประดิษฐ ได้รับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยม และทำผลงานบนเวทีดีที่สุด ที่รอบ 10 คนสุดท้าย

"บอกตามตรงนะ ฉันไม่สามารถเข้าถึงเงินของตัวเองในเมียนมาได้ เพราะธนาคารและทุกสิ่งทุกอย่างปิดไปหมด แต่ผู้จัดการฉันเป็นคนช่วยจัดการบางสิ่งบางอย่างให้ ทำให้สามารถอยู่ไทยได้ ฉันเลยไม่รู้ว่าค่าใช้จ่ายคือเท่าไหร่" 

ฮัน เลย์ โพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัว ขอให้ผู้ชุมนุมต้านรัฐประหาร รักษาสุขภาพใจด้วย

นางงามเมียนมา เป็นนักศึกษาด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยย่างกุ้ง กล้าที่จะพูดถึงการชุมนุมที่เกิดความสูญเสีย และขอความช่วยเหลือจากประชาคมโลก นำพาสันติให้ประเทศที่เธอรัก ซึ่งอาจมีผลให้ฮัน เลย์ ไม่อาจเดินทางกลับเข้าประเทศได้  

"ฉันไม่สนใจ เพราะนี่เป็นอนาคตของคนรุ่นใหม่ นี่คืออนาคตของเมียนมา ดังนั้นฉันจึงต้องพูดมันในเวทีนานาชาติ ฉันไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเอง แต่เป็นห่วงเมียนมามากกว่า" 

"ตอนนี้ฉันไม่สามารถกลับเมียนมาได้ เพราะสนามบินถูกปิด และฉันอยู่ประเทศไทยมาแล้วกว่า 1 เดือน ดังนั้น ฉันไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง เพราะมันเป็นสิทธิของฉันที่จะพูดถึงประเทศเมียนมา ฉันภูมิใจที่ได้พูดถึงประเทศตัวเอง ดังนั้นฉันจึงไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง นี่สำหรับประชาชนของฉัน อนาคตของพวกเรา และสำหรับคนรุ่นใหม่" 

ฮัน เลย์ บอกความรู้สึกที่ได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงแทนประชาชนเมียนมา บนเวทีนางงามที่รณรงค์ยุติสงครามและความรุนแรงทุกรูปแบบ ตามแคมเปญ "Stop the War and Violence" 

แคมเปญรณรงค์ต่อต้านสงครามและความรุนแรงที่ฮัน เลย์ มีส่วนร่วม

"ตอนนี้ฉันได้ทำดีที่สุดแล้วสำหรับประเทศของฉันเองบนเวทีนานาชาติ นี่เป็นโอกาสที่ดีของฉัน ฉันมีความสุขแล้ว ไม่ว่าจะติดท็อป 10 หรือไม่ มันไม่สำคัญ ฉันสามารถพูดถึงประเทศของฉันได้บนเวทีระดับนานาชาติ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับฉัน" 

"ในคำกล่าวของฉัน ฉันอยากจะให้นานาชาติเข้าไปช่วยเหลือเมียนมาตอนนี้ เพราะในเมียนมาตอนนี้สูญเสียชีวิตประชาชนไปแล้วเกือบร้อยชีวิตภายในวันเดียว เราถึงอยากให้นานาชาติยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือในขณะนี้ เราต้องการความช่วยเหลือจริงๆ ได้โปรดสนับสนุนเมียนมา ได้โปรดช่วยเหลือเมียนมา" ฮัน เลย์ พรั่งพรูความ ความทุกข์ ความเสียใจ และการใช้ความรุนแรงของผู้นำ ออกมาพร้อมกับน้ำตา 

อย่างไรก็ตาม ฮัน เลย์ กล่าวว่า เวลานี้เธอรู้สึกเป็นห่วงครอบครัวของเธอมาก เพราะเธอไม่สามารถติดต่อครอบครัวที่อยู่ท่ามกลางสถานการณ์การปราบปรามผู้ชุมนุมฝ่าฝืนคำเตือนออกมาประท้วงต่อต้านรัฐประหารบนท้องถนนอย่างโหดร้าย

"ฉันไม่สามารถติดต่อครอบครัวได้ ในเมียนมาใช้ได้แค่ wi-fi แต่บางพื้นที่ไม่สามารถใช้ wi-fi ได้" ฮันเลย์บอกทั้งน้ำตา