ฮัน เลย์ มิสแกรนด์เมียนมา เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการประกวดในเวทีมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชันแนล 2020 ซึ่งจัดเวทีรอบตัดสินค่ำวันที่กรุงเทพฯ เมื่อ 27 มี.ค.2564 ได้แสดงจุดยืนต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมา และเรียกร้องประชาธิปไตย กลางเวทีประกวด พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติช่วยเหลือเมียนมาด้วยอีกแรงหนึ่ง

กองประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 (MGI) ได้ฉายวิดีโอเหตุการณ์ประท้วงในเมียนมา พร้อมขึ้นข้อความสนับสนุนประชาชนเมียนมา ขณะที่คำกล่าวตอนหนึ่งของฮัน เลย์ ระบุว่าตนเองขอเป็นตัวแทนของเพื่อนนักศึกษาและประชาชนเมียนมาที่กำลังต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศ 

"ฉันขอพูดในฐานะตัวแทนพลเมืองที่กำลังเจ็บปวดกับสถานการณ์ล่าสุดในประเทศเมียนมาอันเป็นที่รัก ฉันรู้สึกเศร้าและเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนที่เสียชีวิตบนถนน ประชาชนทุกคนต้องการประเทศที่เจริญรุ่งเรืองและสงบสันติ การจะทำเช่นนั้นได้ ผู้นำที่เกี่ยวข้องต้องไม่ใช้อำนาจและไม่เห็นแก่ตัว"

"สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นล่าสุดในเมียนมา ถ้าเกิดขึ้นในที่อื่นๆ ทั่วโลก ก็คงต้องเร่งหาทางแก้ไขปัญหา แต่ที่เมียนมา ประเทศบ้านเกิดของฉัน ขณะที่ฉันอยู่บนเวทีนี้ มีคนตายไปแล้วจำนวนมาก มีคนตายไปแล้วหลายร้อยคน และฉันเสียใจแก่ผู้ที่จากไป"

"ประชาชนเมียนมาต่างออกมาบนท้องถนนเพื่อประชาธิปไตย และฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่ต้องการประชาธิปไตย โปรดช่วยเมียนมา เราต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจากทั่วโลกในขณะนี้ โปรดช่วยกันสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม เราต้องรับผิดชอบต่อคนรุ่นต่อไป"

::: โปรดช่วยกันสร้างโลกที่ดีกว่าเดิม :::

ฮัน เลย์ เป็นนักศึกษาด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัยย่างกุ้ง และเป็นตัวแทนเวทีมิสแกรนด์เมียนมาเข้าประกวดบนเวทีมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชันแนล และนับตั้งแต่เกิดรัฐประหารในเมียนมา เธอได้เผยแพร่ภาพและข้อความในบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัว แสดงจุดยืนสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐประหาร และประณามการใช้ความรุนแรงของรัฐบาลทหารเมียนมาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ หลังจากกล่าวถึงสถานการณ์เมียนมาบนเวทีมิสแกรนด์ ฮัน เลย์ ยังได้ร้องเพลง Heal the World ของไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป็อปผู้ล่วงลับ โดยตอนหนึ่งของบทเพลงแปลความหมายว่า "โปรดช่วยกันเยียวยาโลกใบนี้ ทำให้โลกนี้ดีกว่าเดิม เพื่อคุณ เพื่อฉัน และมวลมนุษยชาติ"

การแสดงจุดยืนต่อต้านคณะรัฐประหารอาจมีผลให้ฮัน เลย์ ไม่อาจเดินทางกลับเข้าประเทศได้ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีเอกอัครราชทูตเมียนมาประจำสหรัฐอเมริกา แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้วเพื่อต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาระหว่างการประชุมนานาชาติ ทำให้เขาถูกไล่ออกจากตำแหน่งและถูกสั่งห้ามเข้าประเทศ 

นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลจากการเลือกตั้งในเมียนมาเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ประชาชนจำนวนมากได้ร่วมกันเดินขบวนประท้วง นัดหยุดงานแสดงการต่อต้านรัฐประหารและเรียกร้องประชาธิปไตย รวมถึงเคลื่อนไหวในขบวนการอารยะขัดขืน (Civil Disobedient Movement) ในรูปแบบต่างๆ แต่รัฐบาลทหารเมียนมาใช้กำลังอาวุธปราบปรามผู้ประท้วง จนมีผู้เสียชีวิตแล้วหลายร้อยราย 

แม้เลขาธิการใหญ่และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จะออกแถลงการณ์ประณามและเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมายุติการใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน แต่ไม่มีผลให้รัฐบาลทหารเมียนมาระงับยับยั้งการใช้อำนาจแต่อย่างใด ทั้งยังประกาศกฎอัยการศึก ตัดสัญญาณการสื่อสารทุกช่องทาง และใช้วิธีบุกจับกุมกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐประหารในยามวิกาล ซึ่งเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง