น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วาระที่ 1 รับหลักการ ที่ผ่านมา ตนเองได้อภิปรายเรื่องความไม่ชอบมาพากลของการจัดหาอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ประจำฐานบินชายฝั่ง มูลค่า 4,070 ล้านบาทของกองทัพเรือ ที่ถูกตั้งคำถามว่าการกำหนดขอบเขตของงาน (TOR) ของการจัดซื้อครั้งนี้ผิดวัตถุประสงค์ของการขอใช้งบประมาณหรือไม่ เนื่องจากกองทัพเรือของบประมาณเพื่อซื้อ UAV ติดอาวุธ 3 เครื่อง แต่กลับกำหนด TOR เพื่อจัดหา UAV แต่ไม่รวมการจัดหาอาวุธมาด้วย และเมื่อตรวจสอบราคาของ UAV พร้อมระบบต่างๆ ตาม TOR ของกองทัพเรือ โดยอ้างอิงจากรายงานของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ซึ่งเป็นองค์การมหาชน สังกัดกระทรวงกลาโหม พบว่างบประมาณที่กองทัพเรือใช้จัดหาในโครงการนี้สูงกว่าราคาที่ สทป.เสนอไว้ถึง 400 % (ราคา สทป. 3 เครื่อง ประมาณ 900 ล้านบาท)
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากการอภิปราย โฆษกกองทัพเรือได้ออกมาชี้แจงว่าการจัดหาด้วยงบประมาณ 4,070 ล้านบาทนั้น กองทัพเรือซื้อ UAV ตามที่ TOR กำหนด ทั้งสิ้น 7 เครื่อง โดยยังไม่มีการจัดหาอาวุธมาด้วย (ราคา สทป. 7 เครื่อง ประมาณ 2,000 ล้านบาท) ซึ่งในเรื่องนี้ตนเองได้สอบถามไปตั้งแต่แรกแล้วว่า วัตถุประสงค์ของการของบประมาณตามที่ได้รับอนุมัติไปนั้นคือการซื้อ UAV พร้อมอาวุธ 3 เครื่องใช่หรือไม่ และตอนนี้เงิน 4 พันล้านบาท กองทัพเรือกำลังจะซื้อ UAV ที่ยังไม่มีอาวุธ แถมยังซื้อมาถึง 7 เครื่อง แปลว่า UAV ทั้ง 7 เครื่องนี้ ยังไม่พร้อมรบใช่หรือไม่ และหากต้องการให้ปฏิบัติภารกิจโจมตีทางอากาศตามวัตถุประสงค์ของการจัดซื้อ กองทัพเรือต้องมาของบประมาณเพื่อซื้ออาวุธเพิ่มเติมอีกใช่หรือไม่ และขอให้ฟันธงมาเลยว่าเมื่อสภาฯอนุมัติงบประมาณให้ซื้อ UAV พร้อมอาวุธ 3 เครื่อง แต่กองทัพเรือไปซื้อ UAV ที่ปราศจากอาวุธ 7 เครื่อง และมีสภาพไม่พร้อมรบแบบนี้ เป็นการจัดหาที่ผิดวัตถุประสงค์ที่กองทัพเรือมาชี้แจงกับสภาฯ หรือไม่
“แต่จนถึงขณะนี้นอกจากกระทรวงกลาโหม และกองทัพเรือจะยังไม่ตอบคำถาม และไม่มีการชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ยังมีรายงานจากกระทรวงกลาโหมว่าเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.65 พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้เซ็นอนุมัติซื้อ UAV หรือโดรนของกองทัพเรือ จากบริษัท เอลบิท ซิสเต็ม ของประเทศอิสราเอล รุ่น Hermes 900 จำนวน 7 ลำ มูลค่า 4,004,652,000 บาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้รับการรับรองจากกรมบัญชีกลาง รอเพียงกองทัพเรือประกาศให้สาธารณะรับทราบ และหลังจากนี้ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ หรือผู้แทนจะดำเนินการเซ็นสัญญาจัดซื้ออย่างเป็นทางการต่อไป” น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุ
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า เมื่อกระทรวงกลาโหมและกองทัพเรือ ยืนยันที่จะจัดหา UAV ดังกล่าว และรีบเร่งอนุมัติโครงการโดยไม่รับฟังเสียงทักท้วงของฝ่ายตรวจสอบ และยังหลีกเลี่ยงการตอบคำถามแบบตรงไปตรงมาแบบนี้ ดังนั้นในสัปดาห์นี้ ตนเองจะได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมของ กมธ.ป.ป.ช. เพื่อขอมติให้ทำการตรวจสอบโครงการนี้โดยเร่งด่วน โดยขณะนี้ตนเองได้รับเอกสารข้อมูลต่างๆจากพลเมืองดีมาเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเหตุการณ์ทุกขั้นตอนในวันที่ 31 ม.ค.65 และ 14 ก.พ.65 ที่เกิดขึ้นในห้องทำงานของคณะกรรมการจัดซื้อฯ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับการตรวจสอบและทำความจริงให้ปรากฏต่อไป
“จากหลักฐานที่ได้มาเชื่อว่า คณะกรรมาธิการฯทุกคนคงเห็นพ้องต้องกันที่จะพิทักษ์รักษางบประมาณของชาติกว่า 4 พันล้านบาทให้ถูกใช้อย่างถูกต้อง คุ้มค่า และเป็นประโยชน์กับทุกคน ไม่ใช่ถูกใช้จ่ายเพื่อผลประโยชน์ของใครบางคนเท่านั้น” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว