เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 ธ.ค. ที่รัฐสภา มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงกรณีที่วานนี้ (18 ธ.ค.) เรือหลวง (ร.ล.) สุโขทัย ประสบเหตุพายุคลื่นลมแรงกลางทะเลอ่าวไทย บริเวณพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และอับปางลง ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุให้กำลังพลบนเรือ จำนวน 31 นาย ยังคงสูญหาย ซึ่งเรือหลวงสุโขทัยเป็นเรือที่ใช้มาแล้ว 36 ปี เบื้องต้น คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กำลังรอข้อมูลที่ชัดเจนจากกองทัพเรือ ว่ากรณีที่เกิดขึ้นกับเรือหลวงสุโขทัยเกิดขึ้นจากสาเหตุใด เกิดจากสมรรถนะของเรือดังกล่าวที่เก่าหรือไม่ และการซ่อมบำรุงเป็นอย่างไร
มงคลกิตติ์กล่าวว่า โดยวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคมนี้ กมธ.การทหาร จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อเรือจมลง 1 ลำ จะต้องตั้งงบประมาณซื้อเพิ่มอีก 1 ลำ นอกจากนี้ กมธ.การทหาร จะมีการประชุมเพื่อขอมติขอเดินทางไปอู่ฮั่น ประเทศจีน เพื่อดูการต่อเรือดำน้ำ และดูว่าหากใส่เครื่องยนต์จีนจะทำได้หรือไม่
'โรม' จี้นายกฯ ให้การช่วยเหลือทหารเรือที่สูญหายทั้ง 31 คนเร่งด่วน ตั้งเป็นวาระสำคัญของชาติ
รังสิมันต์ โรม โฆษกและ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่เรือหลวงสุโขทัยที่อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 19 ไมล์ทะเล ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนทำให้มีกระแสน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้จมลงใต้ทะเลแล้วในช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และคงจะต้องมีการสืบสวนถึงสาเหตุอย่างละเอียดกันต่อไปว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
แต่สิ่งที่สำคัญคือ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าทหารเรืออีก 31 คนได้รับการช่วยเหลือ หรือมีความคืบหน้าอย่างไรแล้วบ้าง ซึ่งเท่ากับว่าพวกเขายังต้องรอคอยการช่วงเหลืออยู่กลางทะเล
ทุกนาทีที่ผ่านไป โอกาสที่ทหารเรือเหล่านี้จะมีชีวิตรอดกลับมาได้จะมีน้อยลงไปเรื่อยๆ รัฐบาลจึงต้องทำงานแข่งกับเวลา ผมอยากเห็นทหารเรือทุกคนได้กลับบ้านไปพบครอบครัว ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียเกิดขึ้น
สิ่งที่รัฐบาลต้องทำตอนนี้ คือ การระดมทุกสรรพกำลัง จากทุกหน่วยงานที่มีความพร้อมทั้งด้านเครื่อง และกำลัง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะมีสวัสดิภาพต่อไป
รังสิมันต์กล่าวเพิ่มเติมว่าถึงเวลานี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องนั่งหัวโต๊ะและเรียกทุกหน่วยมารายงาน และติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด นี่คือวาระสำคัญที่ตนคิดว่า เราทุกคนต้องเอาใจช่วยให้ทุกชีวิตปลอดภัยให้เร็วที่สุด
สุดท้ายนี้ ตนขอให้กำลังใจกับทุกครอบครัวที่รอคอยลูกหลานได้กลับบ้าน ผมหวังว่าพวกเขาทุกคนจะปลอดภัย
ด้าน พล.ร.อ.ปกครอง มณธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ แจ้งความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (19 ธ.ค.) ว่า ขณะนี้สามารถช่วยเหลือกำลังพลได้แล้ว จำนวน 75 นาย ปลอดภัยดี และอยู่ระหว่างการติดตามช่วยเหลืออีก 31 นาย ทั้งนี้ กำลังพลบนเรือมีจำนวนทั้งสิ้น 106 นาย ไม่ใช่ 110 นายตามที่เป็นข่าว ส่วนที่บอกว่าปลอดภัยทั้งหมด หมายถึงในระหว่างให้การช่วยเหลือ ทั้ง 106 นายขึ้นมาอยู่บนดาดฟ้าเรือแล้ว ไม่มีใครติดอยู่ตามห้องต่าง ๆ ในเรือ