พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) จับธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ฐานกระทำความผิด เปิดเผยเอกสารอันเป็นความลับสำหรับความปลอดภัยของประเทศ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องทางกฎหมาย ไม่ว่าใครกระทำผิดต้องดำเนินการ และ สมช.ได้มอนิเตอร์อยู่ตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมช.ต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีรวม 11 คนด้วยหรือไม่ พล.อ.สุพจน์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เราต้องดูในอนาคต คือ เรื่องของการเตรียมความพร้อมการเป็นเจ้าภาพประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2565 ในฐานะที่เราเป็นเจ้าภาพ ต้องจัดเตรียมบ้านให้มั่นคงปลอดภัยที่สุด ส่วนเรื่องการเมืองจะมีผลกระทบอะไร ตนคิดว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบมีแผนดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการชุมนุมประท้วงหรือเรื่องอะไรต่างๆ และขอฝากทุกคนช่วยกันพูดคุยว่า การดำเนินการใด ขอให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย และเคารพสิทธิของผู้อื่นเช่นเดียวกัน ซึ่งถือเป็นปัญหาที่สำคัญที่ประเทศไทยต้องแก้ไขในระยะยาวเรื่องของความคิดต่างอย่างสร้างสรรค์
ทั้งนี้ ในช่วงที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค และหากยังไม่มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะส่งผลกระทบอย่างไรหรือไม่ เลขาฯ สมช. กล่าวว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตอบกระทู้ในสภาแทนนายกฯ ไปแล้วอย่างชัดเจนว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินใช้สำหรับแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นหากสถานการณ์โควิดดีขึ้น ซึ่งเราคาดว่าจะดีขึ้น และสามารถกลับมาใช้กฎหมายปกติทั้งหมดได้ ก็จะทำทันที แต่ปัจจุบันยังมีเงื่อนไขที่กระทรวงสาธารณสุขมีข้อกังวล ที่ไม่สามารถใช้กฎหมายปกติได้อยู่หลายประการ จึงจำเป็นต้องคงไว้ ซึ่งประเทศผู้มาร่วมประชุมจะเข้าใจอย่างแน่นอน เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่แก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี และเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้รักษาชีวิตของคนไทยให้ได้มากที่สุด และสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งเราทำมาได้ด้วยดี และขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลตัวเอง