ศูนย์วิจัย Pew เผย จำนวนของ “พ่อ” ที่ทำหน้าที่ “เลี้ยงดูลูกแบบเต็มเวลา” ในปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้นเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับ 30 ปีก่อน โดยมีสัดส่วนร้อยละ 18 ของกลุ่มพ่อแม่เลี้ยงลูกเต็มเวลาที่อยู่บ้าน

รายงานของ ศูนย์วิจัย Pew ระบุว่า ช่วงต้นศตวรรษ 2000 ในสหรัฐอเมริกามีผู้ชายเพียงร้อยละ 5 ที่เป็นพ่อบ้านอยู่บ้านดูแลลูกแบบเต็มเวลา สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 9 ในปี 2008 แต่เมื่อสภาพเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว สัดส่วนผู้ชายที่ทำหน้าที่ผู้ดูแลหลักของลูกก็ค่อยๆ ลดลง จนกระทั่งในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 เกิดขึ้น สัดส่วนนี้จึงเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ในสหราชอาณาจักร มีงานวิจัยที่ระบุว่า พบแนวโน้มที่คล้ายกัน โดยจำนวนของพ่อที่อยู่ดูแลบ้านเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ซึ่งสะท้อนการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมทั่วโลก เมื่อผู้ชายจำนวนมากต้องรับหน้าที่ดูแลลูกไปพร้อมกับทำงานจากบ้านเป็นครั้งแรก

แต่อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันผู้หญิงส่วนใหญ่ยังคงรับหน้าที่หลักในการเลี้ยงลูกที่อยู่บ้าน ศูนย์วิจัย Pew พบว่า เกือบร้อยละ 80 ของผู้หญิงทำหน้าที่นี้ด้วยเหตุผลเรื่องการดูแลครอบครัว แต่สำหรับผู้ชาย เกิดจากเหตุผลทางด้านเศรษฐกิจ โดยร้อยละ 30 ของผู้ชายซึ่งเป็นพ่อต้องอยู่กับบ้าน เพราะเจ็บป่วยหรือพิการ ขณะที่ร้อยละ 13 เป็นกลุ่มคนเกษียณอายุแล้ว และอีกร้อยละ 13 ระบุว่า หางานทำไม่ได้ ขณะที่อีกร้อยละ 8 ระบุว่า กำลังเรียนต่อ

แต่ขณะเดียวกัน ศูนย์วิจัย Pew ก็พบว่า มีผู้ชายร้อยละ 23 เลือกที่จะอยู่กับบ้านเพื่อดูแลครอบครัว ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อเทียบกับ 30 ปีก่อน ที่มีพ่อเพียงร้อยละ 4 เท่านั้นที่ทำหน้าที่เลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน

ศูนย์วิจัย Pew ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่า มีผู้ชายจำนวนมากขึ้นที่เลือกบทบาท “การเลี้ยงดูลูก”มากกว่าการเป็น “ผู้หาเลี้ยงครอบครัว” โดยการเข้ามาทำหน้าที่นี้ ไม่ได้เพราะถูกบังคับเพราะปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ หรือเพราะประสบอุบัติเหตุเหมือนดังเช่นในอดีต

ริชาร์ด ฟราย นักวิจัยอาวุโสจาก Pew ผู้เขียนบทวิเคราะห์เรื่องนี้ บอกว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่า บรรทัดฐานทางเพศที่เปลี่ยนไป มีส่วนทำให้จำนวนพ่อที่อยู่บ้านเพื่อเลี้ยงดูลูกแบบเต็มเวลาเพิ่มมากขึ้น

ที่ผ่านมา ผู้ชายที่รับบทบาทอยู่บ้านดูแลครอบครัว โดยทั่วไปมีระดับการศึกษาและฐานะทางเศรษฐกิจต่ำกว่าพ่อที่ทำงานนอกบ้าน อย่างไรก็ตาม สัดส่วนพ่อที่อยู่บ้านซึ่งเรียนจบปริญญาตรีเพิ่มสูงขึ้นในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา

ศูนย์วิจัย Pew ชี้ว่า ด้วยค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็กนั้นสูงเกินเอื้อมสำหรับหลายครอบครัว การให้ผู้ปกครองที่มีรายได้น้อยกว่าอยู่บ้านจึงมีคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า และเมื่อผู้หญิงจำนวนมากมีการศึกษาที่สูงขึ้นและเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น โอกาสที่ผู้ชายจะกลายเป็นผู้มีรายได้ต่ำกว่าในบ้าน และลาออกจากงานมาเลี้ยงลูกแบบเต็มตัวจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ที่มา
Stay-at-home dads are on the rise, but they’re not necessarily doing it to look after their kids