Skip to main content

 

สนง.ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ผลักดัน “เมืองรอง” ใน 17 จังหวัดสู่ “เมืองสร้างสรรค์” นำความคิดสร้างสรรค์ผสานเข้ากับอัตลักษณ์และ “ทุนท้องถิ่น” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทยสู้กับเมืองต่างๆ ทั่วโลก คาดว่า เทศกาลสร้างสรรค์ในปี 2568 จะช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจโดยรวมไม่ต่ำกว่า 4,382 ล้านบาท

โลกยุคปัจจุบันเข้าสู่การนำ “ความคิดสร้างสรรค์” และ “ทุนวัฒนธรรม” มาเป็นทรัพยากรสำคัญทางเศรษฐกิจ เปิดโอกาสให้เมืองต่างๆ หันมาใช้จุดแข็งทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น ในการสร้างโอกาสใหม่ๆ ทั้งอาชีพ รายได้ และยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์เมืองให้มีความสามารถทางการแข่งขันในระดับโลก

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับเครือข่ายขับเคลื่อนการจัดเทศกาลสร้างสรรค์และย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย หรือ Thailand Creative District Network (TCDN) พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้เป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนแปลง โดยจัดหลักสูตรอบรมการพัฒนาเมืองและกิจกรรมต่างๆ ที่ผสาน “ทุนวัฒนธรรม” เข้ากับ “นวัตกรรม” เพื่อยกระดับพลังสร้างสรรค์ระดับท้องถิ่นให้เป็นพลังทางเศรษฐกิจทั้งในมิติของผู้คน ธุรกิจ และพื้นที่ ผลักดันให้ทุกเมืองมีโอกาสเติบโต และทุกชุมชนสามารถเป็นเจ้าของ “แบรนด์เมือง” ได้จากรากฐานของตนเอง

CEA คาดว่ามูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ในปี 2568 มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 4,382 ล้านบาท และจะสามารถพัฒนา “เมืองสร้างสรรค์” ได้ไม่น้อยกว่า 17 จังหวัดทั่วประเทศ


เปิดกลยุทธ์เชื่อมเมืองหลัก-เมืองรอง สร้างเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์

 

จากศักยภาพของทุนวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมชุมชน CEA ใช้ยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่เป็นแนวทางหลักในการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยสนับสนุนย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Districts) ในพื้นที่ที่เล็กที่สุด พลิกฟื้นย่านที่มีเอกลักษณ์ควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งด้านธุรกิจสร้างสรรค์ สร้างอัตลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ละพื้นที่ ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ โดยมีโครงการ ได้แก่

 

  • เทศกาลสร้างสรรค์นานาชาติประจำภูมิภาค (International Creative Festival)

ปัจจุบัน CEA จัดเทศกาลงานออกแบบประจำปีใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ (Bangkok Design Week) เทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ (Chiang Mai Design Week) เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ (Isan Creative Festival) และเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ (Pakk Taii Design Week) ซึ่งทุกเทศกาลล้วนเป็นเครื่องมือสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ โดยเพิ่มโอกาสทางการท่องเที่ยว การลงทุน และต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

มูลค่าทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการจัดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ (Bangkok Design Week) และเทศกาลอีสานสร้างสรรค์ (Isan Creative Festival) ใน 2568 มีมูลค่าสูงถึง 2,913.2 ล้านบาท และคาดว่าการจัดเทศกาลงานออกแบบปักษ์ใต้ (Pakk Taii Design Week) ในระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม - 7 กันยายน 2568 และเทศกาลงานออกแบบเชียงใหม่ (Chiang Mai Design Week) ในระหว่างวันที่ 6 - 14 ธันวาคม 2568 จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1,469.2 ล้านบาท

 

  • กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อส่งเสริมผู้ขับเคลื่อนการพัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Train the Maker)

เครือข่ายย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ประเทศไทย (TCDN) มีหลักสูตรจัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ขับเคลื่อนย่านสร้างสรรค์ในพื้นที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้แนวทางการนำทุนวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่นมาต่อยอดโดยการลงมือปฏิบัติจริง และสร้างกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พร้อมพัฒนาจังหวัดในภูมิภาคไปสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ในอนาคต

ปีนี้ CEA ตั้งเป้าไว้ที่ 8 จังหวัดเป้าหมาย ได้แก่ ปัตตานี, แพร่, ภูเก็ต, จันทบุรี, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, สุรินทร์ และนครราชสีมา โดยมีการลงพื้นที่จัดฝึกอบรมแล้ว 5 จังหวัด และจะมีการลงพื้นที่อบรมที่พิษณุโลก และสุรินทร์ ช่วงเดือนสิงหาคม และนครราชสีมาช่วงเดือนกันยายน

ดร. ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการ CEA เผยว่าปัจจุบันเครือข่าย TCDN มีสมาชิก 34 จังหวัดทั่วประเทศ และได้สร้างผลลัพธ์เชิงบวกด้วยการการขับเคลื่อนกิจกรรมร่วมกับเครือข่ายท้องถิ่นที่หลากหลาย ทั้งมิติการพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การยกระดับผลิตภัณฑ์ การใช้พื้นที่สร้างโอกาสทางธุรกิจและวัฒนธรรม รวมถึงการออกแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับบริบทชุมชน เช่น งานซาวสีเกด 2567 (Sound of Sisaket 2024) เทศกาลศิลปะและดนตรีที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนและศิลปินท้องถิ่นได้แสดงศักยภาพ เพิ่มโอกาสในการพัฒนาเมืองศรีสะเกษให้เป็นเมืองแห่งดนตรีและศิลปะ

การจัดเทศกาลปัตตานีดีโคตร 2567 (Pattani Decoded 2024) ที่เน้นการสื่อสารภาพลักษณ์ของเมืองปัตตานีด้วยเครื่องแต่งกายอันมีเอกลักษณ์ สะท้อนการเป็นศูนย์รวมของความหลากหลายทางเชื้อชาติจนกลายเป็นเมืองพหุวัฒนธรรมที่สำคัญ เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ได้ออกแบบและจัดแสดงผลงานเพื่อต่อยอดสู่การสรรสร้างพื้นที่สร้างสรรค์

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมออกแบบเส้นทางและการใช้พื้นที่สาธารณะในจังหวัดลำพูน เพื่อรองรับการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ของจังหวัดลำพูน เพื่อต่อยอดให้เกิดพื้นที่ที่เชื่อมโยงผู้คนกับธุรกิจสร้างสรรค์ในย่าน ซึ่งไม่เพียงสร้างพื้นที่พบปะของนักสร้างสรรค์ในระดับพื้นที่ ย่าน และเมือง แต่ยังส่งผลให้เกิดเครือข่ายในระดับประเทศและสากล อันนำไปสู่การฟื้นฟูเมือง การพัฒนาคน และการต่อยอดสู่โอกาสทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน


“ทิศทางใหม่ของเมืองสร้างสรรค์ไทย” ในระดับนานาชาติ

 

เนื่องจาก “เมืองสร้างสรรค์” สามารถเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ผนึกกำลังผู้คนที่มีทักษะสร้างสรรค์และหน่วยงานต่างๆ เข้าด้วยกัน ช่วยกระตุ้นการต่อยอดทุนวัฒนธรรมสู่การสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อขับเคลื่อนเมืองสร้างสรรค์ไทยสู่เวทีโลก

CEA จึงผลักดันกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเปิดประตูเมืองสร้างสรรค์ไทยสู่เครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์โลก พร้อมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและคุณค่าทางสังคมอย่างยั่งยืนในระดับนานาชาติ ดังนี้

 

  • เครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO Creative Cities Network: UCCN)

ปี 2568 CEA ส่งเสริมและสนับสนุนเมืองสร้างสรรค์ไทยให้มีบทบาทในเครือข่ายสมาชิกเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโกจำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ในฐานะเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร และจังหวัดศรีสะเกษ ที่อยู่ระหว่างกระบวนการสมัครเพื่อรับรองการเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านดนตรี

หลังจากเพชรบุรี หลังได้รับการรับรองในฐานะสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก เมื่อปี 2564 ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมในเครือข่ายสมาชิก UCCN เช่น กิจกรรม Cooking and Storytelling Competition: การประกวดรสเพ็ดรีประจำบ้านจังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารและซอฟต์พาวเวอร์ไทย ผสมผสานเรื่องเล่าของชุมชนเข้ากับอาหารท้องถิ่น โดยใช้อาหารเป็นสื่อในการสร้างแบรนด์อาหารท้องถิ่นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และเปิดโอกาสทางธุรกิจ แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่โดยตรง

ทางด้านศรีสะเกษ  CEA สนับสนุนด้วยการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อต่อยอดศักยภาพการเป็นเมืองสร้างสรรค์ ด้านดนตรี เช่น เทศกาลดนตรีซาวสีเกด (Sound of Sisaket) ซึ่งโดดเด่นด้วยการผสมผสานเสียงดนตรีพื้นบ้านเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ ก่อให้เกิดเวทีสำหรับศิลปินท้องถิ่นได้แสดงศักยภาพ สร้างปรากฏการณ์อุตสาหกรรมดนตรีอินดี้อีสานฟีเวอร์ ขยายตลาดดนตรีสร้างสรรค์ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเชื่อมโยงอุตสาหกรรมภาพยนตร์และศิลปะ ช่วยส่งเสริมเมืองสร้างสรรค์ไทยให้เป็นที่รู้จักและโดดเด่นในเวทีโลก       

     

  • การพัฒนาผู้ขับเคลื่อนเทศกาลสร้างสรรค์ (Festival Creator 2025)

 

CEA ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA) และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านเฟสติวัล สนับสนุนการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ให้เป็นอีกหนึ่งกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้ขับเคลื่อนเทศกาลสร้างสรรค์ (Festival Creator 2025) มุ่งให้เกิดกระบวนการแลกเปลี่ยน และถ่ายทอดองค์ความรู้ พร้อมทั้งประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญไปสู่บุคลากรและทีมงานในระดับชุมชน ย่าน และเมืองทั่วประเทศ กิจกรรมนี้ครอบคลุมตั้งแต่การเสริมองค์ความรู้ด้านแนวคิดเทรนด์ธุรกิจงานเฟสติวัล การสร้างสรรค์เนื้อหา และการบริหารจัดการเทศกาลให้ได้มาตรฐานระดับมืออาชีพ และยังประโยชน์ต่อชุมชนในระยะยาว โดยปีนี้มีการจัดเทศกาลสร้างสรรค์ต้นแบบใน 5 จังหวัด ได้แก่

1. Columbo Creative Community Festival ที่จังหวัดขอนแก่น 
2. เทศกาลเลยอาร์ตเฟส ที่จังหวัดเลย 
3. เทศกาล Udon City Fest ที่จังหวัดอุดรธานี
4. เทศกาลฉาดเฟสติวัล จังหวัดพัทลุง 
5. เทศกาลมาหาเสน่ห์ จังหวัดสงขลา

จุดเด่นของกิจกรรม Festival Creator 2025 คือการสร้างพลังและอัตลักษณ์ให้กับพื้นที่ ด้วยการจัดเทศกาลที่ไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมระยะสั้น แต่ยังต่อยอดแรงบันดาลใจสู่การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ในระยะยาว เกิดแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงผู้คนจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เยาวชน และเครือข่ายในชุมชน ให้มีพื้นที่แลกเปลี่ยน ส่งเสริม และฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อนำกิจกรรมสร้างสรรค์เหล่านั้นไปต่อยอดเป็นนิเวศเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของเมืองในระยะยาว