ที่กรุงโตเกียว เกิดปรากฏการณ์ที่แสดงถึงพฤติกรรมฉลาดล้ำของ “ฝูงกา” เมื่อพวกมันใช้รถยนต์ช่วยกะเทาะเปลือกแข็งของลูกไม้ให้ โดยการคาบเอาเมล็ดพืชเปลือกแข็งมาวางไว้บนพื้นถนน แล้วรอให้รถยนต์แล่นทับเพื่อทำให้เปลือกลูกไม้แตกออก
ปรากฏการณ์นี้เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจริงของฝูงกาในโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น ที่แสดงถึงทักษะในการแก้ปัญหาและใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้น
กา จะนำเมล็ดพืชเปลือกแข็งที่เก็บมาจากต้นไม้ในเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกของต้นแปะก๊วยที่ปลูกอยู่ทั่วไปในสวนสาธารณะ หรือตามสองข้างทาง โดยกาจะคาบเอาเมล็ดเปลือกแข็งเหล่านั้นมาวางไว้ด้านหน้ารถยนต์ที่กำลังจะแล่นผ่าน โดยกะเวลาให้รถวิ่งทับ และรอจนกระทั่งรถหยุดตามสัญญาณไฟจราจร พวกมันจึงกลับมานำเอาเมล็ดถั่วที่กะเทาะเปลือกแล้วกลับไปอย่างปลอดภัย
รายงานข่าวระบุว่า มีกาบางตัว เรียนรู้ที่จะคาบเอาเมล็ดพืชเปลือกแข็งมาวางไว้ใกล้ทางม้าลายในจัวหวะที่รถยนต์หยุดให้คนข้าม และรอจนกระทั่งสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว เพื่อให้รถจะแล่นทับเมล็ดพืชที่พวกมันนำมาวางไว้ พฤติกรรมนี้แสดงถึงความฉลาดในเรื่องการคาดคะเนสิ่งเคลื่อนไหวรอบตัว เรื่องความจำ และการเรียนรู้โดยการสังเกต ซึ่งแสดงให้เห็นว่า พวกมันไม่ได้วางเมล็ดพืชแบบสุ่ม แต่เป็นการวางแบบตั้งใจ และมีการคาดคะเนเรื่องจังหวะเวลา และเข้าใจถึงรูปแบบซึ่งเป็นสิ่งเคยเกิดขึ้นกับบรรพบุรุษของมนุษย์ในยุคบรรพกาล
พฤติกรรมของกาในโตเกียว ดึงดูดความสนใจของนักวิจัยจากทั่วโลก และในการศึกษาเปรีบเทียบระหว่างสัตว์ปีกในวงศ์นกกา เช่น กาเรเวน ซึ่งเป็นกาขนาดใหญ่, อีกา และนกกางเขน พบว่า นกกาในโตเกียวมีความฉลาดมากที่สุด และพวกมันสามารถส่งผ่านการเรียนรู้ให้กันและกันในชุมชนของกาด้วยกันเองจากการสังเกต
จำนวนของกาในโตเกียวที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ทางเมืองต้องวางแผนที่จะอยู่ร่วมกับฝูงกา ซึ่งกาอาจสร้างเหตุเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวเมือง เช่น ขโมยอาหาร คุ้ยขยะ หรือทำให้สัตว์ขนาดเล็กกว่าสูญหาย แต่ความสัมพันธ์ของชาวเมืองโตเกียวกับฝูงกา เป็นทั้งสัตว์ที่ก่อความรำคาญ ขณะเดียวกันก็เป็นสัญลักษณ์ของความชาญฉลาดและความสามารถในการปรับตัวเข้ากับเมืองใหญ่ หรือป่าคอนกรีตได้ดี
ที่มา
How Crows in Tokyo Drop Nuts on Roads and Use Traffic to Crack Them Open