Skip to main content

 

คิมจองซู สตรีผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ “บะหมี่ซัมยัง” มาม่าเผ็ดเกาหลีที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก จากชีวิตแม่บ้านที่คอยเลี้ยงลูก สู่การทำงานในอุตสาหกรรมบะหมี่สำเร็จรูป ก่อนที่เธอจะเกิดไอเดียทำมาม่าเผ็ด ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลีไปตลอดกาล

เชื่อว่า น้อยคนที่จะไม่รู้จัก “บะหมี่ซัมยัง” มาม่าเผ็ดของเกาหลีที่โด่งดังบนโซเชียลมีเดียทั่วโลก ที่ไม่ว่าคนดังหรืออินฟลูเอนเซอร์ ล้วนแล้วต้องถ่ายคลิปวิดีโอตัวเองขณะลิ้มลองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติเผ็ดสุดๆ ยี่ห้อนี้ ให้แฟนคลับได้รับชมและไปหามาลองชิมกัน จนเกิดปรากฏการณ์มาม่าเผ็ดเกาหลีขาดตลาดกันเลยทีเดียว

คิมจองซู คือ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของมาม่าเผ็ดเกาหลียี่ห้อซัมยัง ที่เปลี่ยนตัวเองจากบทบาทแม่บ้าน มาสู่การเป็นผู้บริหารของบริษัท Samyang Roundsquare ยักษ์ใหญ่ในวงการอาหาร และผลักดันให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลีได้รับความนิยมในต่างประเทศ

จุดเริ่มต้นของมาม่าเผ็ดที่หลายคนชื่นชอบ เกิดขึ้นระหว่างที่คิมจองซูกำลังกินอาหารกลางวันที่ร้านอาหาร เธอสังเกตว่าลูกค้าคนอื่นๆ ต่างเอร็ดอร่อยกับเมนู “ไก่ผัดรสเผ็ด” ที่ทำให้พวกเขาเหงื่อออกจากความเผ็ดร้อน และก็ดูมีความสุขกับการได้กินเมนูดังกล่าว

“สิ่งที่ฉันคิดได้อย่างเดียวในตอนนั้นคือบะหมี่ ฉันเลยคิดว่า เราน่าจะทำเป็นผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่างนึง” คิมจองซูให้สัมภาษณ์

เธอกลับไปที่บริษัทและขอให้นักวิทยาศาสตร์การอาหาร ทดลองทำมาม่ารสชาติไก่เผ็ดทันที แต่ตัวอย่างแรกถูกคิมจองซูตีตก เพราะเธอต้องการให้มาม่ารสเผ็ดของเธอเผ็ดมากกว่านั้น ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับพนักงานของบริษัทว่า ผลิตภัณฑ์นี้จะมีคนซื้อกินจริงๆ หรือ

มาม่าไก่เผ็ด เปิดตัววางขายในปี 2012 และดูเหมือนจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลว เมื่อกระแสตอบรับจากลูกค้าต่างบอกว่า เผ็ดเกินไป กระทั่งปี 2014 ที่คลิปวิดีโอลองกินมาม่าเผ็ดเกาหลีของยูทูบเบอร์ชาวอังกฤษถูกอัปโหลดให้คนรับชม ก็ทำให้มาม่าเผ็ดที่ดูจะล้มเหลวกลายเป็นสินค้าที่ชาวเน็ตทั่วทั้งโลกอยากลองชิม โดยเฉพาะชาวเน็ตในสหรัฐอเมริกา ที่ต่อมากลายเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของมาม่าเผ็ดซัมยัง คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของยอดขายทั้งหมด

มาม่าเผ็ดซัมยัง คือ ความสำเร็จที่หาได้ยากมากๆ ในอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลีใต้ที่มีผลิตภัณฑ์มากกว่า 500 รายการวางขายอยู่ในตลาด โดยรายรับของบริษัทที่เพิ่มจาก 224 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2015 มาเป็น 893 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2023 ก็เป็นตัวพิสูจน์ความสำเร็จของมาม่าเผ็ดยี่ห้อนี้แล้ว

หลังจากมาม่าเผ็ดเข้าไปตีตลาดในสหรัฐและจีนได้แล้ว ก้าวต่อไปของบริษัทซัมยัง คือ การเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปที่มีการวางแผนจัดตั้งบริษัทในประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อจำหน่ายสินค้าในแถบยุโรป

ทั้งนี้ เควิน ฮัน นักวิเคราะห์จาก Euromonitor International ระบุว่า

“เหตุผลที่มาม่าเผ็ดได้รับความนิยมไปทั่วโลก เพราะมันมีความแปลกใหม่ ถ้าผลิตภัณฑ์เหล่านี้ของบริษัทสามารถนำเสนอคุณค่าที่มีประโยชน์ต่อผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็ยังมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานและแปลกใหม่ ผมคิดว่าแบรนด์จะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในตลาดโลก”

 

อ้างอิง
Super-Spicy Noodles Make Former Stay-at-Home Mom a Billionaire
How some very spicy noodles saved the company that pioneered Korean ramen
The Woman Shaking Up the $50 Billion Instant-Ramen Industry