‘วันตรุษจีน’ หรือวันขึ้นปีใหม่ของจีน มีประวัติความเป็นมาย้อนหลังไปไกลกว่า 3,500 ปี จากตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับการขับไล่ปิศาจร้าย จนมาสู่การเซ่นไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ และการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งการเปลี่ยนผ่าน ทั้งยังถือเป็นวันสิ้นสุดฤดูหนาว และเป็นการเริ่มต้นของฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นใหม่ของชีวิต
ตำนานการกำเนิด ‘วันตรุษจีน’
วันตรุษจีน ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างวันที่ 21 มกราคมถึง 20 กุมภาพันธ์ตามปฏิทินจันทรคติ โดยนับจากวันเริ่มเกิดพระจันทร์ใหม่ครั้งที่ 2 หรือวันข้างขึ้น 1 ค่ำครั้งที่ 2 หลังวัน ‘เหมายัน’ ซึ่งเป็นวันที่ขั้วโลกด้านใต้อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากที่สุด มักจะอยู่ราววันที่ 21-22 ธันวาคม และเป็นวันที่กลางคืนยาวกว่ากลางวัน
ส่วนที่มาของ วันตรุษจีน มาจากตำนานเก่าแก่ หนึ่งในเรื่องราวที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด คือ ตำนานเกี่ยวกับปิศาจที่ชื่อ”เหนียน” (Nian) ซึ่งแปลว่า “ปี”
ตำนานกล่าวว่า เหนียน จะเข้ามากัดกินปศุสัตว์ และพืชผลของชาวบ้าน รวมกัดกินทั้งผู้คน เพื่อป้องกันไม่ให้ปิศาจร้ายทำลายชีวิต ชาวบ้านจึงพากันนำของกินต่างๆ มาวางไว้นอกประตูบ้านเพื่อเป็นอาหารให้กับเจ้าอสุรกาย
ตำนานยังกล่าวด้วยว่า มีชายชราผู้เปี่ยมปัญญา เกิดพบวิธีที่ทำให้เหนียนกลัว ด้วยการติดเครื่องหมายสีแดงและทำเสียงดัง เช่น การจุดประทัดไล่ ชาวบ้านจึงพากันแขวนโคมไฟสีแดงตามหน้าต่างและประตู เพื่อป้องกันไม่ให้เหนียนเข้ามาในบ้าน จากนั้นก็พากันจุดประทัดเพื่อให้เกิดเสียงดัง สร้างความกลัวและขับไล่เหนียนออกไป
สายธารทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน สืบทอดถึงปัจจุบัน
หากย้อนกลับไปยังต้นกำเนิดของวันตรุษจีน มีที่มายาวนานย้อนหลังไปไกลราว 3,500 ปีในยุคของราชวงศ์ชาง (1,600-1,046 ปีก่อนคริสตกาล) โดยคนในยุคนั้นจะจัดพิธีเซ่นไหว้บูชาบรรพบุรุษและเทพเจ้าในช่วงสิ้นสุดต่อเนื่องกับวันเริ่มต้นใหม่ของปี
ขณะที่คำว่า “เหนียน” หรือ “ปี” เริ่มปรากฏครั้งแรกในสมัยราชวงศ์โจว (1,046-256 ปีก่อนคริสตกาล) ธรรมเนียมในการเซ่นไหว้บรรพบุรุษและเทพเจ้า รวมถึงการสักการะต่อธรรมชาติเพื่อขอพรให้ผลผลิตการเกษตรดีนั้นได้สืบทอดปฏิบัติกันต่อมา
เมื่อถึงราชวงศ์ฮั่น (220 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ.220) ได้มีการกำหนดวันตรุษจีนที่แน่นอน โดยให้เป็นวันแรกของเดือนแรกตามปฏิทินจันทรคติ ขณะเดียวกันกิจกรรมการเฉลิมฉลองต่างๆ ก็กลายเป็นที่นิยม เมื่อถึงราชวงศ์เวย์และราชวงศ์จิน (ค.ศ.220 ถึง 420) นอกจากการเซ่นไหว้บรรพบุรษและเทพเจ้าในวันตรุษจีนแล้ว ผู้คนก็เริ่มสร้างความบันเทิงให้กับตัวเอง สมาชิกในครอบครัวร่วมกันปัดกวาดทำความสะอาดบ้านเรือน ทานอาหารร่วมกัน และอยู่พูดคุยกินดื่มไปจนดึกดื่น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเทศกาลปีใหม่ของสามัญชนทั่วไป
เมื่อถึงยุคราชวงศ์ถัง กิจกรรมต่างๆ ในเทศกาลตรุษจีนก็เพิ่มมากขึ้น การเติบโตทางเศรษฐกิจนับจากราชวงศ์ถัง ไปจนถึงราชวงศ์ซ่ง และราชวงศ์ชิง ส่งผลให้มีการพัฒนาเทศกาลตรุษจีน โดยรูปแบบต่างๆ ยังคงสืบต่อมายังยุคสมัยใหม่ เช่น การเดินทางกลับไปเยี่ยมญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงที่บ้านเกิด การเซ่นไว้บรรพบุรุษและทานอาหารร่วมกัน การจุดประทัด การเชิดมังกรและสิงโตในงานวัด และการจัดโคมไฟที่สวยงาม ก็ได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของการเฉลิมฉลองวันสำคัญของคนเชื้อสายจีนในปัจจุบัน