คนส่วนใหญ่เชื่อว่า ‘แมว’ ไม่สามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น หรือมีความรู้สึกต่อคนได้มากเท่ากับ ‘สุนัข’
แต่การศึกษาชิ้นใหม่ของทีมวิจัยมหาวิทยาลัยออริกอนสเตท ซึ่งศึกษาถึง “สายสัมพันธ์ระหว่างแมวบ้านกับมนุษย์” เผยว่า
“มีข้อมูลล่าสุดที่สนับสนุนสมมติฐานที่ว่า แมวมีความสามารถในการสร้างสายสัมพันธ์แบบมั่นคงและไม่มั่นคงกับมนุษย์ที่ดูแล ในลักษณะเดียวกับการแสดงออกในเด็กเล็ก โดยร้อยละ 65 เป็นสายสัมพันธ์แบบมั่นคง ขณะที่สุนัขแสดงออกถึงสายสัมพันธ์แบบมั่นคงต่อมนุษย์ ในสัดส่วนร้อยละ 58 โดยส่วนใหญ่แมวมีความผูกพันอย่างมั่นคงกับมนุษย์ที่ดูแลพวกมัน”
หมายความว่า แมวไม่เพียงแต่สามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับเจ้าของได้ แต่ส่วนใหญ่เป็นสายพันธ์ที่แข็งแกร่งเท่าๆ กับสายสัมพันธ์ที่เด็กเล็กหรือสุนัขมีต่อพ่อแม่หรือผู้ที่ดูแล
การศึกษานี้ นักวิจัยทำการทดลองกับแมวและลูกแมว 70 ตัวกับเจ้าของ โดยนำแมวและลูกแมวมาปล่อยในสถานที่และสภาพแวดล้อมที่พวกมันไม่รู้จัก โดยที่เจ้าของปล่อยให้พวกมันไว้ตามลำพังเป็นเวลา 2 นาที จากนั้นนักวิจัยให้เจ้าของกลับมาพบแมวของตัวเอง
ผลการวิจัยพบว่า แมวที่มีสายสัมพันธ์ที่มั่นคงกับเจ้าของ จะรู้สึกผ่อนคลายเมื่อพบกับเจ้าของและสามารถสำรวจห้องที่ไม่รู้จักต่อไปได้ ขณะที่แมวซึ่งมีสายสัมพันธ์แบบไม่มั่นคงจะกระโจนหรือวิ่งเข้าหา และเกาะติดแจเจ้าของไม่ยอมห่างไปไหน
ผลการทดลองนี้ ถูกนำมาเปรียบเทียบกับงานวิจัยก่อนหน้า ที่ทำการศึกษาสายสัมพันธ์ระหว่างสุนัข ลิง และเด็กอ่อนกับผู้ดูแลหรือพ่อแม่ โดยนักวิจัยพบว่า สุนัข ร้อยละ 61 มีสายสัมพันธ์แบบมั่นคงกับเจ้าของ ขณะที่สายสัมพันธ์แบบมั่นคงของเด็กอ่อนกับพ่อแม่อยู่ที่ร้อยละ 65
ส่วนสายสัมพันธ์ของแมวนั้น นักวิจัยพบว่า มีความคล้ายกันมากกับสุนัขและเด็กอ่อน ซึ่งแมวสามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับเจ้าของได้ทั้งรูปแบบความสัมพันธ์ที่มั่นคงและไม่มั่นคง โดยพบว่า แมวมีสายสัมพันธ์แบบมั่นคงต่อมนุษย์ในสัดส่วนร้อยละ 65 ซึ่งทำลายความคิดเดิมที่ว่า แมวไม่สนใจมนุษย์ แม้จะมนุษย์คนนั้นเป็นเจ้าของของมันเองก็ตาม