ในยุคก่อน ของขวัญยอดนิยมที่วัยรุ่นอเมริกันอยากได้ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส มักเป็นรองเท้าผ้าใบ แกดเจ็ตต่างๆ หรือบัตรของขวัญ แต่ทว่า ในปีนี้มีความแตกต่างออกไป เมื่อ “เงินคริปโต” กลายสิ่งที่คนเจเนอเรชัน Z ของสหรัฐอยากได้มากที่สุดในเช้าวันคริสต์มาส
ผลสำรวจล่าสุดโดย VISA บริษัทเทคโนโลยีการชำระเงินยักษ์ใหญ่ พบว่า มีคนรุ่นใหม่เจน Z ชาวอเมริกันราวร้อยละ 45 ระบุว่า อยากได้ของขวัญเป็นสกุลเงินดิจิทัลในวันคริสต์มาส ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับราคาบิตคอยน์ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ราวเหรียญละ 92,000 ดอลลาร์ หลังจากพุ่งสูงทะลุ 125,000 ดอลลาร์เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้คนหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยเห็นโอกาสเหมาะในการเข้าสู่ตลาดคริปโต นอกจากนี้ ท่าทีของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สนับสนุนเงินคริปโต จากการลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมคริปโตในสหรัฐ ก็ยิ่งดึงดูดความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น
รายงานของ PYMNTS บริษัทวิจัยและให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการชำระเงิน เมื่อเดือนมกราคม 2025 เผยว่า ร้อยละ 69 ของคนเจน Z ในสหรัฐใช้ชีวิตแบบเดือนชนเงินเดือน การได้รับเงินคริปโตเป็นของขวัญโดยไม่ต้องลงทุนด้วยเงินของตัวเอง จึงดูเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลสำหรับนักลงทุนรุ่นเยาว์รายใหม่
ซาราห์ ชาร์กี คอลัมนิสต์ด้านการเงิน และที่ปรึกษาด้านการเงิน บอกว่า การให้คริปโตเป็นของขวัญนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือ ผู้ที่ได้รับอาจได้ผลตอบแทนก้อนโตโดยไม่ต้องควักเงินเอง แต่ข้อเสีย คือ คริปโตอาจไม่ใช่สินทรัพย์ทางการเงินที่เหมาะที่สุดสำหรับคนหนุ่มสาวที่ยังอยู่ในช่วงเรียนรู้การลงทุนและการบริหารเงิน
ซาราห์บอกว่า คริปโตเคอร์เรนซี เป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงมาก มูลค่าสามารถเหวี่ยงขึ้นลงอย่างรุนแรง ความไม่แน่นอนของตลาดคริปโต ทำให้ไม่มีใครรู้ได้เลยว่า มูลค่าของของขวัญชิ้นนั้น จะพุ่งขึ้นอย่างหวือหวาหรือดิ่งลงจนมูลค่าหดหายไป
นอกจากความเสี่ยงทางด้านมูลค่าแล้ว การถือครองคริปโตยังต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจที่มากพอสมควร ซึ่งแน่นอนว่า ผู้รับซึ่งเป็นคนเจน Z สามารถเรียนรู้วิธีเข้าถึงและเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลได้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะพร้อมรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล หากนักลงทุนรุ่นใหม่ทำกุญแจหาย หรือจัดการคริปโตผิดพลาด การกู้คืนทรัพย์สินอาจเป็นเรื่องยากมาก หรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย
ความผันผวนของตลาดคริปโต ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเตือนนักลงทุนไม่ให้ลงทุนไปที่คริปโตมากเกินไป โดยมักเสนอให้จำกัดสัดส่วนการลงทุนในคริปโตไว้ราวร้อยละ 2–5 ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด ขณะที่เงินส่วนใหญ่ควรอยู่ในสินทรัพย์ที่มีการพิสูจน์ตัวเองมาแล้ว เช่น กองทุนดัชนีต้นทุนต่ำ หรือพันธบัตร
ซาราห์เสนอว่า ทางออกที่อาจเป็นการประนีประนอมสำหรับพ่อแม่ของคนเจน Z คือ การให้คริปโตในจำนวนเล็กน้อยควบคู่ไปกับการวางรากฐานการลงทุนด้วยกองทุนดัชนีและหุ้นที่มีความมั่นคง วิธีนี้จะช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสคริปโตตามที่พวกเขาสนใจ ขณะเดียวกันก็ยังมีสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า ช่วยให้พอร์ตเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว