Skip to main content

 

Libertus Machinus


 

เวลาเราพูดถึง "นักจัดการของในบ้าน" เราอาจนึกถึง "มาริเอะ คนโดะ" และสานุศิษย์ ที่เป็นมือโปรด้านการจัดระเบียบของในบ้านให้เรียบร้อย รวมถึงทิ้งของที่ "ไม่สปาร์คจอย" โดยแนวทางพวกนี้เป็นแนวทางการจัดของในบ้านที่คน Gen Y และ Gen X นิยมกัน

อย่างไรก็ดี คนรุ่น Baby Boomer มีความต้องการที่ต่างออกไป

คนรุ่นนี้จำนวนมาก ไม่ได้ต้องการหยิบของแต่ละชิ้นมาแล้วถามความรู้สึกตัวเอง แต่หลายคนมีความชัดเจนว่าอยากจะ "กำจัด" บางอย่างแน่ๆ แต่ประเด็นคือ "ไม่อยากทิ้ง" อยากขายให้ได้ราคา แต่ไม่รู้จะขายใคร เพราะไม่มีประสบการณ์ในการขายของมือสอง

ลองนึกภาพ ตายาย Baby Boomer อายุ 70 ปีกว่า ลูกโตหมดแล้ว อยู่บ้านสองชั้นหลังใหญ่แบบที่อยู่ได้ 4 คน แต่มันไม่มีความจำเป็นแล้ว เลยอยากอยู่บ้านหลังเล็กลง มีชั้นเดียว จะได้ดูแลง่ายขึ้น และไม่ต้องขึ้นลงบันได และส่วนต่างของราคาบ้านเก่ากับใหม่ก็จะได้เป็นเงินสำรองในยุคที่ค่าครองชีพทะยานขึ้น

ติดอยู่เรื่องเดียวและเรื่องใหญ่ด้วยคือ ของเต็มบ้าน ไหนจะเป็น ชุดจานชามและเครื่องครัวของคุณยาย คอลเลคชั่นหนังสือและเครื่องมือช่างของคุณตา สารพัดเฟอร์นิเจอร์ในบ้านที่คนไม่ไปแตะจนฝุ่นจับ ยังไม่นับของจุกจิกที่สืบทอดมาจากรุ่นพ่อแม่คุณตาคุณยายอีก

ของพวกนี้ไม่ได้เก็บมาแค่ปีสองปี แต่เก็บมาทั้งชีวิต แน่นอนมันมีความผูกพัน แต่ตนก็ยอมรับว่าดูแลไม่ไหว หลายๆ อย่างถ้าขายได้ราคาดีก็ไม่อยากเกี่ยง ปัญหาคือไม่รู้จะขายใครยังไง มันจุกจิกไปหมด แก่ขนาดนั้นไม่อยากปวดหัว

นี่เลยทำให้ปัญหา "ของเต็มบ้าน" มันคาราคาซัง และหลายครั้งลูกหลานก็ต้องจัดการต่อหลังพ่อแม่ตาย แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น เมื่อ "กลไกตลาด" จัดการปัญหานี้ได้อีกครั้งในอเมริกา

เนื่องจากปัญหาที่ว่ามานี้เกิดขึ้นแพร่หลายมาก มันเลยมีงานแนว "ที่ปรึกษา" แบบใหม่เกิดขึ้น ซึ่งงานนี้ก็ไม่มีชื่อชัด บางคนก็จะเรียกว่า "นักจัดการของคนแก่" หรือจะเรียก "ที่ปรึกษาด้านการย้ายบ้าน" ก็ได้ โดยมันเป็นงานที่เริ่มเกิดขึ้นแล้วในสหรัฐอเมริกาดังที่ Business Insider รายงาน

ตัวงานของงานนี้คือ ลงไป "จัดการ" กับ "ข้าวของ" ของคนแก่ในบ้าน ให้จำนวนของน้อยลงอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด หรือจะบอกว่าเป็นงานสไตล์ "มาริเอะ คนโดะ" สำหรับคนรุ่น Baby Boomer ก็ได้ ซึ่งที่ใช้สไตล์มาริเอะ คนโดะ และสานุศิษย์ไม่ได้ เพราะความต้องการของคนแก่แบบแก่เลย ต่างจากคนวัยทำงานที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแนวคิดนี้

งานของ "นักจัดการของคนแก่" แน่นอนบางส่วนคาบเกี่ยวกับงานแบบ "มะริเอะ คนโดะ" คือ ช่วยให้คนคิดตันสินใจว่าจะทิ้งอะไร โดยจะไปเน้น "เก็บความทรงจำเอาไว้ แต่เอาสิ่งของออกไป" เพราะสำหรับคนแก่ ของทุกชิ้นมีความทรงจำ แต่มันเก็บไว้ต่อไปไม่ได้ ก็ต้องมีวิธี "จัดการ" นอกจากนั้น ลักษณะงานที่เฉพาะของนักจัดการของคนแก่ คือ การจัดการพื้นที่ให้เหมาะแก่อาการอยู่อาศัยของคนแก่ด้วย อาจรวมถึงการทำทางเดินให้ไม่ลื่น การเพิ่มแสงไฟ รวมถึงราวจับด้วย เพราะคนแก่ๆ นี่ล้มไปที เรื่องใหญ่

พูดง่ายๆ คือเป็นทั้ง "มาริเอะ คนโดะ" เป็นทั้งนักจิตวิทยา เป็นทั้งมัณฑนากร และเป็นทั้งนายหน้าค้าของเก่า รวมกันในคนเดียวเลยสำหรับงานลักษณะนี้ โดยปกติค่าจ้างก็จะเป็นแนว "ที่ปรึกษา" คือ คิดเป็นชั่วโมง โดยเรตจะอยู่ประมาณ 1,200-2,500 บาทต่อชั่วโมง ซึ่งค่าจ้างต่องานทั่วไปคือประมาณ 30,000-100,000 บาท โดยทั่วไปการรับคำปรึกษาคือจะอยู่ประมาณ 36 ชั่วโมง

แน่นอน งานแบบนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรเลย "ทำเองก็ได้" สำหรับคนอายุน้อยๆ รายได้น้อยก็อาจงงว่าทำไมต้องเสียเงินเป็นหมื่นเพื่อจ้างคนมาบอกว่าอะไรในบ้านควรทิ้งบ้าง ทั้งที่คนแก่วัยเกษียณก็มีเวลาทั้งวัน? แต่ในความเป็นจริง งานยากของคนแก่ คือ การหาที่ขายของที่ "มีราคา" แน่ๆ คือ รู้ว่ามีราคา แต่หาผู้ซื้อไม่เจอ หาเองก็ลำบาก ซึ่ง "มือโปร" เค้าเห็นก็จะนึกออกเลยว่าขายใครหรือที่ไหนดี หรือบางทีอาจประเมินราคาได้ด้วย

แต่ก็แน่นอน งานพวกนี้ไม่ใช่การคัดของเก่าๆ มาขาย แบบที่เราเห็นในเรียลลิติ้โชว์สมัยก่อนอย่าง Warehouse Wars เท่านั้น แต่มันเป็นการทั้งจัดพื้นที่ที่ของพวกนี้หายไป รวมถึงการดูแลจิตใจคนที่มีความทรงจำกับของเหล่านี้ด้วย ดังนั้น มันเป็นงานที่ซับซ้อน ที่คนที่สามารถจัดการมันได้อย่างราบรื่นนี่ก็ต้องเรียกว่ามีทักษะครบเครื่องพอควร

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ คนที่ทำงานแบบนี้ มักจะมีอายุพอควร เรียกว่าต่ำกว่า 50 นี่ไม่ค่อยเห็น และคนที่อายุเกิน 60 ทำงานนี้ก็เป็นปกติ เพราะมันต้องวัยแบบนั้นแหละที่จะเริ่มเข้าใจว่าการ "จัดการของ" ของคนแก่มันเป็นคนละเรื่องกับการจัดการของของคนหนุ่มสาว และจริงๆ นี่ก็เป็นการตอบโจทย์การหางานด้านบริการของคนแก่ในยุคที่ไม่คิดจะเกษียณกันตอน 60 ปีแล้วด้วย เพราะมันต้องมีอายุระดับหนึ่งจริงๆ ถึงจะเหมาะกับงานแบบนี้

 

อ้างอิง
How an entrepreneur found her niche: Boomers who need to get rid of their stuff
 

อ่านบทความอื่นๆ ของผู้เขียน