Skip to main content

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ของไทยกล่าวถึงการท่องเที่ยวไทย ว่า ฤดูฝนเป็นจุดขายที่สำคัญอีกประการ เพราะชาวต่างชาติบางส่วนนิยมมาเที่ยวไทยในหน้าฝน เนื่องจากประเทศเขาไม่มีฝน นับเป็นการเสนอจุดขายที่เราอาจจะไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน พร้อมทั้งข้อมูลอ้างอิงเรื่องการไม่มีฝนตกให้ดูนั่นก็ช่างน่าทึ่ง เราจึงลองค้นดูว่า ประเทศไร้ฝน หรือฝนตกน้อยที่น่าจะเป็นทาร์เก็ตใหม่ๆ ของการท่องเที่ยวไทยนั้น มีอะไรบ้าง

ปริมาณน้ำฝนเป็นหนึ่งในพรมากมายที่สิ่งมีชีวิตได้รับ ฝนมีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งและเป็นรากฐานของชีวิต ใช้ในการเพาะปลูก ดินที่จะอุดมสมบูรณ์ได้นั้น สิ่งสำคัญคือปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอ ฝนเป็นทรัพยากรที่จำเป็นอย่างยิ่งแต่ละประเทศ หรือแม้แต่เศรษฐกิจของประเทศ แต่ถ้ามากเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน และก็มีบางประเทศที่ฝนไม่ตกเลย จนนำไปสู่ความแห้งแล้งและความอดอยาก ทำให้ผู้คนตายจากความอดอยากและความหิวโหย

ทั้งนี้มีการสำรวจจากนาซา พบว่า โลกของเรากำลังจะขาดแคลนน้ำในเร็วๆ นี้ มีหลายประเทศไม่มีฝนตกหรือตกแต่มีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก และต่อไปนี้คือ 10 ประเทศที่มีปริมาณน้ำฝนน้อยที่สุดในโลก

10. คูเวต 

ประเทศคูเวต มีปริมาณน้ำฝน 121 มม.ต่อปี ฝนที่เกิดขึ้นที่นี่มีสาเหตุมาจากพายุฝนฟ้าคะนองเป็นครั้งคราวและในฤดูใบไม้ผลิ ปริมาณน้ำฝนควบคุมอุณหภูมิของประเทศ แต่คูเวตมีอุณหภูมิสูงสุดที่บันทึกไว้ที่ 54.4 °C เมื่อเทียบกับในเอเชียทั้งหมด ดังนั้นฤดูร้อน จะแผดเผาและไม่มีน้ำ ดังนั้น ประเทศคูเวตจึงเริ่มทำการขจัดสารพิษในน้ำเพื่อให้คนในประเทศได้บริโภคกัน

9. จอร์แดน

ประเทศจอร์แดน มีปริมาณน้ำฝนต่อปีอยู่ที่ 111 มม. เป็นประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศแตกต่างกันไปตั้งแต่สภาพแบบเมดิเตอร์เรเนียน (สภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นโดยมีฤดูร้อนและแห้งแล้งและฤดูหนาวที่ไม่รุนแรงและมีฝนตกชุก) ไปจนถึงแบบแห้งแล้ง ประเทศนี้มีพืชพันธุ์มากมายกว่า 2,300 สายพันธุ์ ช่วงอุณหภูมิเริ่มต้นที่ 32 °C และสามารถสูงถึง 40 °C ในช่วงฤดูร้อนของเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน กรกฎาคมและสิงหาคมเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด บางส่วนของภาคตะวันตกของจอร์แดน มีหิมะตกในช่วงฤดูหนาวเช่นกัน

8. มอริเตเนีย 

ประเทศมอริเตเนีย มีปริมาณน้ำฝนที่ 92 มม.ต่อปี เป็นประเทศที่ 70% ของประเทศปกคลุมไปด้วยทะเลทราย อุณหภูมิระหว่างวันมีความแตกต่างกันอย่างมาก ตั้งแต่ 16 °C ในตอนเช้าไปจนถึงมากกว่า 49 °C ในตอนเที่ยง และมักเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม โดยรวมแล้วเป็นประเทศที่สวยงามและถูกค้นพบในปี 2508 ระหว่างภารกิจอวกาศเจมินิ 4 (Gemini IV)

7. อัลจีเรีย 

ด้วยปริมาณน้ำฝน 89 มม. ต่อปี ทำให้ประเทศแอลจีเรียอยู่ในอันดับที่ 7 แต่พื้นที่ชายฝั่งทะเลกลับมีปริมาณน้ำฝนถึง 670 มม. ต่อปี อัลจีเรียเป็นประเทศในแอฟริกาที่ใหญ่ที่สุดและใหญ่เป็นอันดับสิบของโลก ถูกปกคลุมด้วยทะเลทรายเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนน้อยมาก อุณหภูมิในฤดูร้อนอาจสูงถึง 43.3 °C สภาพอากาศร้อนชื้นและแห้งแล้งอย่างหนักทำให้ยากต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์

6. บาห์เรน

ประเทศบาห์เรน เป็นประเทศที่โดดเด่นมากเรื่องพายุทะเลทราย ลมตะวันตกเฉียงเหนือสร้างความหายนะและทำให้อุณหภูมิในฤดูร้อนอาจสูงถึง 50 °C นี่ไม่ใช่ประเทศที่คุณสามารถอยู่ได้เพราะไม่น่าอยู่เอาเสียเลย มีที่ดินประมาณ 2.5% เท่านั้นที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ส่วนที่เหลือส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย ปริมาณน้ำฝนรายปีในประเทศบาห์เรนอยู่ที่ประมาณ 83 มิลลิเมตรต่อปี

5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พื้นที่ชายฝั่งทะเลของประเทศจะมีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่า 120 มม. ต่อปี แต่โดยเฉลี่ยพื้นที่ของประเทศบริเวณทะเลทรายจะมีปริมาณน้ำฝน 78 มม. ต่อปี บริเวณชายฝั่งทะเลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มักประสบกับพายุทะเลทรายที่รุนแรงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ในช่วงหลายเดือนเหล่านี้ อุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงกว่า 45 °C สภาพอากาศที่ไม่สามารถทนได้และชื้นทำให้อึดอัดต่อการใช้ชีวิต

4. กาตาร์ ปริมาณน้ำฝน 74 มม. ต่อปี 

ปริมาณน้ำฝนที่ประเทศกาตาร์ได้นั้นส่วนใหญ่เกิดจากฝนที่ตกมาอย่างไม่คาดคิด และเป็นช่วงสั้นๆ ในฤดูหนาว ด้วยปริมาณน้ำฝน 73 มม. ต่อปี ประเทศมีฤดูร้อนที่แผดเผาและอุณหภูมิสูงสุดอาจสูงถึง 40 °C ขึ้นไป อีกทั้งยังต้องเผชิญกับพายุทะเลทรายด้วย

3. ซาอุดีอาระเบีย

ประเทศซาอุดีอาระเบีย ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอาหรับ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงอยู่ในอันดับที่ 3 ของรายชื่อประเทศที่มีปริมาณน้ำฝนต่ำที่สุด ปริมาณน้ำฝน 59 มม. ถูกบันทึกไว้ทุกปี อุณหภูมิอาจสูงขึ้นถึง 54 °C ในหนึ่งวัน ภูมิภาคอาซีร์ ของซาอุดีอาระเบียเป็นเพียงส่วนเดียวที่มีปริมาณน้ำฝน 300 มม. ซึ่งเกิดจากมรสุมของมหาสมุทรอินเดีย ประเทศซาอุดีฯ ไม่มีสภาพอากาศแบบทะเลทราย และโรงงานกลั่นน้ำทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่ในเมืองราสอัลไคร์

2. ลิเบีย

ด้วยปริมาณน้ำฝน 56 มม. ต่อปี ลิเบียจึงเป็นประเทศที่มีปริมาณน้ำฝนน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก และฝนไม่ตกมาหลายสิบปีแล้ว บางส่วนของประเทศนี้ล้อมรอบด้วยทะเลทราย และตอนเหนือมีภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน เขตภูเขาเขียว - จาบัล อัล อัคดาร์ (Jabal al Akhdar) - เป็นสถานที่ที่ปริมาณน้ำฝนสามารถสูงถึง 600 มม. แต่พื้นที่อื่นๆ ทั้งหมดจะได้รับฝนเพียง 50-55 มม. เท่านั้น อุณหภูมิจะร้อนในตอนกลางวันและสภาพอากาศ

1. อียิปต์ 

ประเทศอียิปต์ที่มีปริมาณน้ำฝนต่ำสุด 18 มม. ต่อปี ไม่เพียงแค่ปิรามิดเท่านั้น แต่อียิปต์ยังเป็นที่รู้จักจากแม่น้ำไนล์อีกด้วย ซึ่งเป็นแม่น้ำเดียวใช้ผลิตพลังงานและทำการเกษตรสำหรับชาวอียิปต์ 

ที่มา 

Top 10 Countries with Lowest Rainfall in the World

Precipitation, mm per year, 2017 - Country rankings