Skip to main content

จากกรณีประเทศไทยได้ถูกลดอันดับการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์จากทางการสหรัฐฯ ลงเป็นอันดับประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watch List) เป็นเวลา 2 ปีติดกัน หากไม่ได้รับการแก้ไขก็จะถูกปรับระดับเป็น (Tier 3) โดยอัตโนมัติ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามฝ่ายคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงแรงงาน, และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ทั้งการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็กและการบังคับใช้แรงงานข้ามชาติ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ เช่น การส่งออกสินค้าไทย และยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศต่อสายตานานาประเทศอีกด้วย
 
โดยเมื่อวันที่ 15-18 พ.ค.65 เชษฐพันธ์ มากสัมพันธ์ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ ได้นำตัวแทนจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการต่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคม คณะผู้แทนไทย ได้เข้าพบปะหารือในเรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา
 
การเข้าหารือครั้งนี้ มุ้งเน้นไปที่การดำเนินการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือจากทางการสหรัฐฯ โดยส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตานีละบุตร ผบช.รร.นรต. และพล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 ในฐานะผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทน
 
ทั้งนี้ คณะผู้แทนไทย ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของไทย โดยได้สรุปผลงานภาพรวมของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ รวมทั้งการดำเนินคดีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้สหรัฐฯ เห็นถึงความพยายาม ในการขจัดปัญหา
 
ซึ่งทางการสหรัฐฯ ได้ให้ความสนใจและซักถามรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการในการดำเนินการช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะการนำเสนอ แนวทางการประสานงานในการช่วยเหลือคนไทยจากประเทศกัมพูชา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งสถิติการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ของไทย ที่มีการดำเนินคดีที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด และยังมีจำนวนคดีที่สั่งไม่ฟ้องลดลงอย่างน่าพอใจ เป็นผลมาจากการประสานงานให้พนักงานอัยการ เข้ามาร่วมกับพนักงานสอบสวน ในการตรวจสำนวนคดีก่อนส่งฟ้อง เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ครบถ้วน ทำให้สหรัฐมีความพึงพอใจในด้านการปราบปราม และการดำเนินคดีผู้กระทำผิดค้ามนุษย์เป็นอย่างมาก
 
ขณะเดียวกัน คณะผู้แทนไทย ยังได้เสนอให้มีการพิจารณาสถานการณ์ปัญหาค้ามนุษย์ในอนาคต เป็นการแก้ไขในระดับภูมิภาค เพราะประเทศไทย อยู่ในฐานะของประเทศทางผ่าน ที่ผู้กระทำผิดมักจะใช้ในการลักลอบขนเหยื่อค้ามนุษย์ไปสู่ประเทศที่สาม มิใช่ประเทศต้นทางหรือปลายทางแต่อย่างใด อีกทั้งรัฐบาล ก็มีนโยบายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ปัญหาการค้ามนุษย์ภายในประเทศมีปริมาณลดลงอย่างมาก
 
ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ได้ให้ข้อแนะนำเพิ่มเติมจากการหารือครั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยให้เน้นการเพิ่มเติม การบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และการช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์ทั้งระบบ แม้ที่ผ่านมา การดำเนินคดีกับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่อยากให้เพิ่มเติม ด้านการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ให้เป็นระบบ และมีความจริงจัง โดยให้ประสานงานกันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ในภาพรวมให้เป็นทีมประเทศไทย เพื่อให้ประเทศไทยสามารถจัดการปัญหาค้ามนุษย์ที่เกิดขึ้นได้ในระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ
 
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า การเดินทางมากรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกาของคณะผู้แทนไทยในครั้งนี้ ได้มีแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อคิดเห็น ประสบการณ์ในการทำงานแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ที่ผ่านมา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทางการสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้แทนของสหรัฐได้มีความเข้าใจในความมุ่งมั่นในการดำเนินการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงจังและต่อเนื่องของไทย รวมทั้งได้เห็นผลงานและความเปลี่ยนแปลงที่หน่วยงานไทย ได้ร่วมกันบูรณาการพัฒนาระบบการทำงาน การประสานช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ และการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาค้ามนุษย์ที่มีพัฒนาการที่ดีจากปีก่อนมาก
 
ที่สำคัญการมาพบปะหารือของคณะผู้แทนไทยในครั้งนี้จะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ให้กับประเทศไทย เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศต่อไป