จากเจ้าของออแกไนซ์มีงานต่อเนื่องมาตลอด 20 ปี เจอโควิดชีวิตทำรายรับเป็นลบ แต่ไม่ท้อหาอะไรที่ทำได้ปรับตัวไปก่อน รอวันวิกฤตหมดไปจะกลับมายืนอีกครั้ง
รณกฤต เพ็ชรวิจิตร เจ้าของร้านข้าวแกงกระหรี่คาเร เอกิ และ ราเมน เอกิ เปิดเผยกับ 'ดิ โอเพนเนอร์' ว่า เดิมทำงานออแกไนซ์เป็นหลัก ทำมากว่า 20 ปี ตั้งแต่เรียนจบทำงานออแกไนซ์ มาตลอด ผลกระทบหลังเกิดโควิดถือว่าเลวร้ายสุดๆ คือจากงานที่ช่วงปี 63 กำลังจะมีงานเพิ่งเข้ามาเยอะ และมีวางแพลนหลายๆ งาน มีงานอีเวนต์หลายๆ งาน มีในลักษณะที่เซ็นสัญญาแล้ว แต่พอโควิดเข้ามา งานเริ่มถูกปฏิเสธไปเรื่อยๆ ตอนแรกมีเลื่อนไปก่อน จนหลังๆ มาเป็นยกเลิกไปเลย ด้วยความที่โควิดเข้ามาใหม่ๆ แล้วร้ายแรงมาก ทำให้งานที่เข้ามาถูกยกเลิกไปจนหมดแบบว่าไม่มีทีท่าที่จะเริ่มต้นขึ้นมาใหม่ได้เลย
ส่วนผลกระทบที่ได้รับถึงขั้นไหน รณกฤต เล่าว่า ติดลบเป็นหลายแสนเพราะ เราซื้อบ้านมาผ่อนเพื่อทำเป็นออฟฟิศด้วย หรือ ทำงานด้วย จริงๆ ตกประมาณ 3-4 หมื่นบาท ในส่วนที่เป็นค่าผ่อนรถค่าใช้จ่ายจิปาถะ เกือบ 5-6 หมื่นต่อเดือน แล้วกลายเป็นว่าหนึ่งถึงสองปีที่ผ่านมามันติดลบไปเรื่อยๆ 5-6 หมื่นต่อเดือนไปเรื่อยๆ เหมือนแอบท้อมาช่วงระยะหนึ่งเหมือนกัน แต่ไม่ถึงขั้นฆ่าตัวตาย เพราะเราเคยสอนเคยบอกน้องคนอื่น ด้วยความที่เราเป็นพี่บอกทุกคนว่ามีปัญหาเราอย่าคิดสั้น เราพยายามบอกตัวเองว่า อย่ากลืนน้ำลายตัวเอง ในการที่เราไปพูดอะไรแบบนั้น เราต้องพยยามอยู่นิ่งๆ คิดอยู่กับตัวเองเหมือนกันว่าต่อไปจะทำอย่างไร
"เราเป็นสายปาร์ตี้คิดว่าสักวันเรามีรายได้ประมาณหนึ่ง เปิดร้านเหล้าอะไรประมาณนี้ เผื่อเพื่อนๆ มานั่งจอย มิทติ้งกัน เปิดเป็นที่สังสรรค์ เลยกลายเป็นว่าไหนๆ บ้านมีบริเวณอยู่แล้ว ก็ลองเปิดร้านเล็กๆ ดู ด้วยความที่เคยทำออแกไนท์ มาก่อน เรามีของพวกโต๊ะเก้าอี้ ใช้ของที่มีอยู่แล้วให้มากที่สุด พยายามลงทุนให้น้อยที่สุด" รณกฤต บอก
ทำไมถึงคิดมาขายอาหารญี่ปุ่นที่ตลาดจ๊อดแฟร์ พระราม9 รณกฤต บอกว่า ด้วยความที่ตลาดที่บ้านยังไม่ได้โตมากนัก มองในมุมที่ว่า พอดีรู้จักกับพี่อีกคน ที่เคยเปิดร้านราเมงมาก่อน แล้วเหมือนคุยกันว่าเขาสนใจมาเปิดตลาดที่นี่ แล้วพอดีเราเริ่มมีงานออกแบบร้านให้กับเขาอยู่ที่สายไหม มาคุยกันว่าถ้าจะมาเปิดอีกทีหนึ่งที่ตลาดจ๊อดแฟร์แล้วมาจอยกันไหม เพราะอย่างน้อยอยากให้ร้านมันดูใหญ่ขึ้น ก็เลยคุยกันว่าก็ได้ เพราะลองดูอีกมุมมองหนึ่งที่เราขายที่บ้านมาโดยตลอด รายได้พอถูไถเรื่อยๆ แต่เราจะทำอย่างไรที่ดูว่าตลาดมันโตขึ้น เรายังไม่เคยเปิดตลาดในตลาดนัดมาก่อน ก็เลยมองว่าลองดูสักตั้งหนึ่ง
รณกฤต กล่าวว่า ทีเด็ดของข้าวราดหน้าแกงกระหรี่ที่มาถึงร้านแล้วต้องไม่พลาด เพราะเราใช้ของดี ซื้อแล้วเอามาทำเลย น้ำซอสต่างๆ เราเอามาเคี่ยวใหม่ เพิ่มเติมสูตรใหม่ให้มากขึ้น ไม่ใช่ว่าเราสั่งซอสมาจากที่นี่ ลูกค้ากินไปรู้เลยว่ามาจากที่นี่ เราก็เลยมองว่าเป็นจุดเด่นที่ลูกค้าชอบ เมนูที่ร้านมีข้าวหน้าหมูทงคัตสึ ที่เป็นข้าวหน้าแกงกระหรี่ ข้าวหน้ากุ้ง ไก่คาราเกะ ข้าวหน้าปลาซาบะ ปลาดอลลี่ ไส้กรอกชีส ส่วนราเมงของเราโชยุราเมงน้ำใส ทงคัตสึราเมงน้ำข้น บะหมี่เย็น ข้าวหน้าหมูชาชู ร้านอยู่ในตลาดจ๊อดแฟร์ ล็อคบี 16-18 เปิด 5 โมงเย็นถึงประมาณ 4 ทุ่ม
งานเดิมที่เราเคยทำจะกลับไปทำหรือไม่ รณกฤต กล่าวว่า อย่างไรก็ต้องกลับ เป็นงานที่เราถนัด สามารถเดินต่อไปตรงนั้นได้อยู่ตลอด ไม่ต้องกังวลในการทำงานด้านนั้นตลอด แต่ส่วนงานร้านอาหารทำให้เราสนุกไปอีกแบบหนึ่ง ได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตาเป็นอีกฟิว ที่เราได้สัมผัส เหมือนงานออแกไนซ์เหมือนกัน
รณกฤต ฝากมุมมองให้กับคนโดนผลกระทบโควิดว่า อยากให้มีสติแล้วหาในสิ่งที่ตัวเองชอบและสามารถทำได้ พยายามมองทุกช่องโอกาสที่เข้ามา พยายามอย่าปฏิเสธในสิ่งที่เข้ามา บางทีอาจจะรับมาก่อนลองดูว่าเราสามารถทำได้หรือไม่ เราสามารถก้าวไปได้หรือไม่ อย่าเพิ่งผลักมันออกไป ก้าวไปก่อน อาจจะมีอะไรดีๆ เข้ามาเอง