Skip to main content

ที่ทำเนียบรัฐบาล ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ว่า โดยหลักแล้วเราต้องดูสถานการณ์ที่เป็นจริง ขณะนี้ประเทศไทยอาจจะต้องปรับท่าทีนิดนึง เพราะเรารับรู้อยู่แล้วว่ามีการประณามเยอะอยู่แล้ว แต่เราต้องหาจุดที่ช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ต้องมาช่วยกันดูว่าจะทำอย่างไรให้สถานการณ์คลี่คลายได้ อย่านั่งประณามอย่างเดียว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับท่าทีของไทย จะทำให้เป็นรูปธรรมได้อย่างไร ดอน กล่าวว่า เป็นไปได้ ต้องหาทางให้เกิดขึ้น เพื่อไปเสริมการเจรจา เรามีช่องทางที่จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีประธานาธิบดียูเครนสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ดอน กล่าวว่า ตามหลักของการเจรจาเป็นการทำให้ท่าทีเข้มขึ้น แข็งขึ้น ไม่ใช่เจรจาแล้วจะอยู่ในท่าทีเดิมๆ แต่การเสริมท่าทีนั้นจะทำให้การคุยกันยากขึ้นไปได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น จะต้องชวนกันมาเอาจริงเอาจังที่จะหาทางออก มากกว่าการแสดงความแกร่ง

เมื่อถามย้ำว่า ยูเครนมีจุดยืนชัดเจนที่จะเข้าร่วมอียูใช่หรือไม่ ดอน กล่าวว่า ไม่เชิง เราต้องคิดว่ามีปัจจัยต่างๆ อีกเยอะ อาจจะไม่ได้แค่คิดเรื่องการเป็นสมาชิกอียูเท่านั้น แต่อาจจะมาจากที่อื่นก็ได้เพื่อให้เกิดการยืดเยื้อ คนที่ต้องการให้เกิดความยืดเยื้อมีอยู่เยอะ

ต่อข้อถามว่า คนที่ต้องการให้เกิดความยืดเยื้อต้องการอะไร ดอน กล่าวว่า ให้ช่วยคิดกันเองว่าชีวิตจริงเป็นอย่างไร คนที่ต้องการให้ยืดเยื้อก็ได้ประโยชน์จากหลายๆ อย่าง

เมื่อถามย้ำว่า ต้องกดดันคนที่ต้องการให้ยืดเยื้อหรือไม่ ดอน กล่าวว่า มันมีคนที่ได้ประโยชน์ แต่คนเสียผลประโยชน์คือคนทั้งโลก เราจึงต้องหาวิธีการที่จะช่วยกัน ให้การหารือเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ต้องไม่มานั่งด่ากัน ไทยโชคดีอย่างหนึ่งที่เป็นเพื่อนและสามารถคุยกับคนทั้งโลก แต่ว่าคุยแล้วมีน้ำหนักแค่ไหนนั้นอีกเรื่องหนึ่ง เราสามารถพูดได้กับทั้งอียู สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย

"เพียงแต่บางเรื่องต้องปล่อยให้ไหลเดินไปตามเส้นทางธรรมชาติ ไม่ใช่ว่าต้องด่วนรีบร้อนเข้าไปมีบทบาท เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่ต้องประสงค์ของเรา เรามีเรื่องอื่นต้องทำเยอะแยะ เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องในอีกเวทีหนึ่ง มีผู้เล่นและผลประโยชน์เยอะ เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ จึงต้องดูว่าสถานการณ์จะคลี่คลายหรือไม่ จะเป็นอย่างไร และผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร เพราะรู้แล้วว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ ราคาพลังงานจะสูงขึ้น เงินเฟ้อจะตามมา ซึ่งเราไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้" ดอน ระบุ

เมื่อถามว่า หลังการเจรจารอบแรก ทางการไทยประเมินท่าทีรัสเซียอย่างไร ดอน กล่าวว่า ทางรัสเซียก็อยากเจรจา ไม่เช่นนั้นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 ก.พ.คงไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีสิ่งแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้เสมอ ต้องตามกันให้ดี เพราะเป็นเรื่องระดับโลกของการเจรจาและการเมืองที่ไม่สามารถมองเห็นได้ผิวเผิน เพราะข้างล่างมีอะไรเยอะแยะเต็มไปหมด สมัยก่อนจะมาในรูปแบบสู้รบไปเจรจาไป เป็นแบบนี้ในทุกยุคทุกสมัย รวมถึงอนาคตด้วย ที่มีการต้องการหาทางครอบงำเพื่อหาประโยชน์จากสถานการณ์และความอ่อนแอจากแต่ละหน่วยและประเทศ ดังนั้น ประเทศจะอ่อนแอไม่ได้ อ่อนแอเมื่อไหร่จะโดนทันที ธรรมชาติมนุษย์เป็นแบบนั้น และแต่ละประเทศดูแลโดยมนุษย์ ซึ่งจะมาโดยบทบาทต่างๆ รวมถึงผู้นำ คนเหล่านี้จะเป็นคนสร้างกระแส เพื่อให้เกิดกระแสตาม ดูได้จากกระแสตามที่อยู่ในโซเชียลมีเดียที่บอกว่ารัสเซียไม่มีทางสู้ ซึ่งโซเชียลมีเดียเป็นของตะวันตก ไม่ว่าจะออกมาในลักษณะใด หรือภาษาที่ใช้ต่างๆ เราไม่มีทางได้อ่านโซเชียลของรัสเซีย มีเรื่องเยอะแยะที่พันกันหมด