"ไทยสร้างไทย" ยืนยัน โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ไม่ช่วยให้ประเทศฟื้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ แนะใช้งบลงทุนจ้างงาน เปิดโอกาสให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุน ถามหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ควรอยู่เป็นภาระ สร้างหนี้ให้ประเทศชาติ ประชาชนต่อหรือไม่
รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีการเริ่มต้นใช้ โครงการคนละครึ่งระยะที่ 4 วงเงิน 34,800ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ถึง 30 เมษายน 2565 วงเงิน คนละ 1,200 บาทว่า นโยบาย "คนละครึ่ง" ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่มักนำมาอวดอ้างว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีนั้น แท้จริงแล้วยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง
พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย สะท้อนในทิศทางเดียวกันว่า ไม่มีเงินเพียงพอที่จะเติมเงินเข้าไปใน แอปฯ "เป๋าตัง" ทำให้นโยบายนี้ไม่ได้ผลเท่าที่ควรโดยเฉพาะในแง่การกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพ และประเทศไทยไม่ใช่เป็น "ประเทศที่มีรายได้สูง" การแจกเงิน โดยไม่สร้างรากฐานทางเศรษฐกิจ จะไม่ช่วยให้ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
ที่ผ่านประเทศไทยมีการเจริญเติบโตต่ำที่สุดในอาเซียน ตั้งแต่ก่อนโควิด และช่วงโควิด เศรษฐกิจของประเทศ หดตัวมากที่สุดในอาเซียน โดยเฉพาะในปีล่าสุด ประเทศไทยมีการฟื้นตัวต่ำที่สุดในอาเซียน สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวต่อแผนการกระตุ้นทางเศรษฐกิจของรัฐบาล
"โครงการคนละครึ่งผ่านมาแล้วสามเฟส และวันนี้เริ่มต้นเข้าสู่เฟส 4 แต่รัฐก็ยังไม่เรียนรู้ว่าการใช้เงินที่หมดไปกับการแจกไม่ได้ผล ไม่ช่วยให้วิกฤตทางเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น แต่ก็ยังหลับหูหลับตาทำ ไม่คิดจะทบทวน ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง จะเป็นไปได้หรือไม่ หากเลิกแจกเงิน แล้วเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ ที่เน้นการจ้างงาน เน้นการทำให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุน เพื่อให้ลุกขึ้นมาได้เร็วที่สุดแข็งแรงที่สุด นำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนอีกครั้ง" รัฐภูมิ กล่าว
รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทยเห็นว่า ความพยายามในการแก้ปัญหา ของรัฐบาลโดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังซ้ำซากวนเวียนอยู่ในอ่าง ไร้วิสัยทัศน์ไร้แนวคิด ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ควรพิจารณาตัวเองว่า ควรจะอยู่ในตำแหน่งหรือไม่ รวมถึงหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอย่างตัวนายกรัฐมนตรีเอง ควรพิจารณาตัวเองด้วยว่ายังจะอยู่เป็นภาระ สร้างหนี้สินให้ประเทศต่อไปหรือไม่