สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวมอบนโยบายแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ภายในสังกัด สทนช. ภายหลังการลงนามรับมอบงานในตำแหน่งเลขาธิการ สทนช. จาก สมเกียรติ ประจำวงษ์ อดีตเลขาธิการ สทนช. ว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสในการดำรงตำแหน่งเลขาธิการคนใหม่ของ สทนช. โดยมีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างยิ่งที่จะสืบสานภารกิจในการบริหารจัดการน้ำของประเทศ สานต่อนโยบาย รวมทั้งปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป โดยสำหรับแนวทางในการดำเนินงานต่อจากนี้ จะมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างความมั่นคงน้ำในระดับชุมชนและครัวเรือนเป็นหลักสำคัญ พร้อมให้ความสำคัญในการเข้าถึงหน่วยงานระดับท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานในระดับท้องถิ่นยังคงขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการในการเสนอแผนงาน โครงการ เพื่อขอรับงบประมาณ รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในการสนับสนุนการดำเนินงานต่าง ๆ เช่น ระบบ Thai Water Plan (TWP) เป็นต้น ดังนั้น จึงเล็งเห็นว่าการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่หน่วยงานท้องถิ่นจะช่วยก่อให้เกิดความร่วมมืออันดีที่แน่นแฟ้น อันจะช่วยส่งเสริมให้การดำเนินงานตามภารกิจของ สทนช. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างราบรื่นและเต็มประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ยังมีแนวทางในการขับเคลื่อนการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องอย่างทั่วถึงและทันท่วงที มีการบูรณาการข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สื่อสารกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของสถานการณ์น้ำและงานด้านการบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งยังมีแนวคิดในงานด้านการปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องการใช้ และการอนุรักษ์น้ำให้แก่ประชาชน เช่น การประหยัดน้ำ การไม่ทิ้งขยะมูลฝอยลงในแม่น้ำลำคลอง ฯลฯ ซึ่งการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ถือเป็นปัจจัยสำคัญอันจะช่วยสนับสนุนการบริหารจัดการของภาครัฐ ให้ประเทศชาติเกิดความมั่นคงน้ำได้อย่างยั่งยืนสืบต่อไปสู่อนาคต และเนื่องจาก สทนช. เป็นหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลในเชิงนโยบาย จึงมีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อนงานด้านการติดตามประเมินผลอย่างเข้มข้น เพื่อเป็นการดูแล ตรวจสอบ วิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรค เพื่อช่วยให้การดำเนินแผนงาน โครงการต่าง ๆ ของแต่ละหน่วยงานด้านน้ำ เกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมถึงจะมีการปรับปรุงและพัฒนางานในด้านอื่น ๆ เช่น การปรับช่วงเวลาในการจัดทำมาตรการป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง เพื่อเพิ่มระยะเวลาให้การเตรียมความพร้อม การเพิ่มงานวิจัยด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ฯลฯ
เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า จะมีการขับเคลื่อนงานเร่งด่วนต่าง ๆ อาทิ งานตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 ซึ่งมีกำหนดเงื่อนไขเรื่องระยะเวลา การวางแผนการประชุม เช่น การประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ฯลฯ เป็นต้น และสำหรับทิศทางการดำเนินงานของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติต่อจากนี้ จะมีการสร้างระบบการทำงานที่มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น และจะมีการการทบทวนหลังปฎิบัติงาน (After Action Review : AAR) อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ เพื่อสำรวจข้อบกพร่องและปรับปรุงแก้ไขในจุดที่ยังมีปัญหา เพื่อให้องค์กรสามารถพัฒนาระบบการทำงานที่เอื้อต่อการดำเนินงานได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งเป็นระบบการทำงานที่สร้างความสุขและสมดุลในการทำงานให้แก่บุคลากรทุกคน พร้อมกันนี้ ยังเห็นความสำคัญในการส่งเสริมองค์ความรู้ในด้านน้ำให้แก่บุคลากรในทุกตำแหน่งของ สทนช. โดยเฉพาะบุคลากรบรรจุใหม่ ซึ่งเปรียบเสมือนการติดอาวุธให้เกิดความพร้อมสูงสุดในการดำเนินงานด้วย โดยการเข้ารับตำแหน่งใหม่ในครั้งนี้ จะมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างเต็มที่ในการผลักดันองค์กรให้เกิดความก้าวหน้าและเป็นที่ยอมรับจากทุกภาคส่วน ดูแลบริหารจัดการน้ำของประเทศให้เกิดความมั่นคงอย่างยั่งยืน และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน