Skip to main content

การแถลงข่าวจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาในคดีอาญาที่เกี่ยวพันกับการเสียชีวิตและการซ้อมของผู้ต้องสงสัยในคดียาเสพติด เริ่มขึ้นล่าช้ากว่ากำหนดเวลา 21:00 น.ที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แจ้งไว้ช่วงเย็นที่ผ่านมา โดยการแถลงข่าวเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 21:45 น.ของวันที่ 26 ส.ค.2564

พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร. แถลงเป็นคนแรกว่า สังคมคงจะทราบข้อมูลในวันที่ 5 ส.ค.ที่มีผู้เสียชีวิตขณะอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ จ.นครสวรรค์ และมีคลิปเผยแพร่ในสื่อโซเชียล ขอชี้แจงว่า ทีมสอบสวนได้ออกหมายจับข้าราชการทั้งหมด 7 คน ตอนนี้อยู่ในความควบคุมของคณะกรรมการสอบสวน 5 คน ส่วนผู้กำกับโจ้เป็นคนที่ 6 และคนที่ 7 ถูกนำขึ้น ฮ.มาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ในขณะที่กำลังแถลงข่าว 

"การจับกุมและการมอบตัว เราพยายามทำเพื่อให้สังคมเห็นว่าเราไม่เคยปกป้องคนกระทำผิด เราเอาทุกคนเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม มันอาจจะไม่ได้ช่วยให้สิ่งที่สูญเสียไปมันดีขึ้น แต่อย่างน้อยก็ให้เห็นว่า เราไม่เคยปกป้อง สังคมตำรวจ องค์กรตำรวจ อยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน ที่ผ่านมา ในนามขององค์กรตำรวจทุกคน ก็ขอโทษกับพี่น้องประชาชน ที่เกิดเรื่องแบบนี้ แต่ผมยังยืนยันว่า องค์กรเราเป็นองค์กรที่ตรวจสอบได้"

https://scontent.fbkk22-3.fna.fbcdn.net/v/t1.6435-9/240578847_349920223523874_891162267451909760_n.jpg?_nc_cat=103&ccb=1-5&_nc_sid=730e14&_nc_eui2=AeFJcngWqWvvm9xJaFLFtmbHtd2fJyK8Fz613Z8nIrwXPtPuAxFQNYuQ__yxfbj6Na4RuA5ljK89gzkjJ6F2-nS7&_nc_ohc=wkR7tlPdQnAAX8EK4Yg&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.fna&oh=c4d8f6141fd07b7743315b698329a706&oe=614D6988

"ท่านจะเห็นว่าไม่เคยมีตำรวจกระทำผิดแล้วพ้นโทษ ไม่มี ไม่เคยมีใครที่ทำผิดแล้วหลบหนีลอยนวลไปได้ ส่วนใหญ่แล้วเราดำเนินการเกือบทั้งหมด ยืนยันว่าจะเป็นยศชั้นไหนก็เหมือนกัน ตั้งแต่ ผบ.ตร.ไปจนถึงลูกแถว ถ้าทำอะไรไม่ดี ทำผิด ก็ต้องถูกลงโทษ" ผบ.ตร. กล่าวกับสื่อมวลชน

หลังจากนั้นได้มีการต่อโทรศัพท์ไปยัง ผกก.โจ้และเปิดลำโพงให้สื่อมวลชนฟังเสียงและซักถาม โดยมีการถามย้ำว่า ผกก.โจ้มีทนายอยู่ด้วยหรือไม่ และได้รับคำตอบจากบุคคลปลายสายที่ระบุว่าเป็น ผกก.โจ้ ยืนยันว่ามีทนายส่วนตัวและเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วย และรับทราบว่าทุกคำพูดที่พูดออกมาจะถูกถ่ายทอดสู่สาธารณชนทั่วประเทศ 

สาบานต่อพระที่ห้อยคอ ไม่มีการเรียกเงิน แค่ต้องการข้อมูล

หลังจากสื่อมวลชนซักถามเรื่องคลิปที่เผยแพร่ มีการบันทึกคำพูดไว้ได้ เกี่ยวพันกับการเรียกเงินจากผู้ต้องสงสัย แต่ ผกก.โจ้ระบุว่า คดีที่เกี่ยวพันกับผู้ต้องสงสัยที่เสียชีวิตเป็นคดีใจที่ลูกน้องของตนจับกุมไว้ได้ มียาไอซ์และยาบ้าเกือบๆ หมื่นเม็ด จึงลงไปดูคดีด้วยตัวเอง แต่ปกติไม่ค่อยลงไปดู 

"สิ่งที่ทำไปคือต้องการข้อมูลไปทำลายยาเสพติดที่อยู่ในนครสวรรค์ ขอรับผิดแต่ผู้เดียว ผมเป็นนายสั่งลูกน้อง ลูกน้องก็ต้องทำ เราทำแบบนี้ เพราะต้องการทำงาน แต่เรื่องเงินไม่มี"

เมื่อสื่อมวลชนถามเหตุผลในการใช้ถุงดำคลุมหน้า ผกก.โจ้ระบุว่า ต้องการคลุมไม่ให้เห็นผู้ต้องสงสัยเห็นหน้าตนเอง แต่ผู้ต้องสงสัยพยายามเอามือมาฉีกถุง ก็เลยต้องมัดมือไพล่หลัง และมีผู้ถามเรื่องเรื่องเสียงข่มขู่เรียกเงินในคลิป เจ้าตัวยืนยันว่า ไม่มีการเรียกเงิน และขอสาบานกับพระที่ห้อยคอ ตอนที่ผู้ต้องหาหมดสติไปก็รีบทำซีพีอาร์และนำส่งตัวโรงพยาบาล ส่วนที่ให้ระบุสาเหตุการตายเรื่องเสพยาแอมเฟตตามีน เพราะสอบถามแฟนของผู้ต้องหาแล้วได้รับข้อมูลมาอย่างนั้น

"ผมยอมรับผิดทุกประการ แต่ผมไม่มีเจตนาฆ่าน้อง มีแต่เจตนาทำงานจริงๆ แต่พลาดไป ต้องขอโทษคุณพ่อคุณแม่ของน้องที่ตาย และกราบขอโทษ ผบ.ตร.และตำรวจทุกคน ผมผิดเองครับ แต่ยืนยันไม่มีการตบทรัพย์"  

ส่วนคำถามว่าทำไมไม่รายงานข้อเท็จจริงในการปฏิบัติงานให้ถูกต้อง ได้รับคำตอบ "ตกใจ ไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยแจ้งพ่อของเขาก่อน แล้วก็ปรึกษาว่าจะทำอย่างไรกันดี" และได้ช่วยเงินทำบุญงานศพไปอีก 30,000 บาท พร้อมย้ำว่า ได้สาดน้ำให้ผู้ต้องสงสัยตื่น และย้ำอีกว่า "ตกใจ ไม่เคยเจอแบบนี้ คิดว่าน้องเขาอาจจะแกล้งด้วยซ้ำ"

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าตกใจ แต่ทำไมใช้ถุงคลุมผู้ต้องสงสัยถึง 6 ใบ ผกก.โจ้ ตอบว่าต้องการปิดไม่ให้ผู้ต้องสงสัยเห็นหน้าตัวเอง แต่ตอนหลังผู้ต้องหาดิ้น ก็เลยต้องทำให้เขาไม่เห็นหน้า และกรณีที่ถอดกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุออก ได้รับคำตอบว่า "ผมยอมรับผิดครับ เกิดเหตุแล้วช็อก ผมอายุน้อย ประสบการณ์น้อย ก็เลยสั่งให้ดำเนินการ" พร้อมระบุว่า "มันมีกล้องบางตัวที่เสีย ก็เลยบอกให้ถอดพร้อมกัน" และสื่อถามว่าได้บันทึกจับกุมก่อนและหลังเกิดเหตุหรือไม่ ผกก.โจ้ตอบว่า "ไม่ถึงกับเป็นการควบคุมตัว" จึงไม่มีบันทึก เพราะเป็นการนำตัวมาสอบเท่านั้น

ซักถามได้ราว 15 นาทีก็ถูกตัดจบ เพราะเกรงจะเสียรูปคดี

หลังจากมีการซักถามได้ราว 15 นาที พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ได้กล่าวตัดบทไม่ให้สื่อมวลชนซักถามอีก โดยระบุว่า "หลายเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินคดี มันจะเสียหายกับรูปคดี ถ้าคุณถามอย่างนี้กันหมดก็เจ๊ง ไม่ต้องดำเนินคดี ส่งฟ้องตอนนี้เลย หรือไม่ส่งฟ้องเลย แล้วแต่ คุณจะเอายังไง ผมคิดว่าแค่นี้มันเกินพอแล้วนะครับ ขอความกรุณาเพียงเท่านี้ ทุกอย่างรายละเอียดก็ให้ไปอยู่ในสำนวน ผบ.ตร.ก็บอกแล้วว่าทุกอย่างเป็นธรรม"

ขณะที่ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้ไปรับตัว ผกก.โจ้ที่โรงพักแสนสุข จ.ชลบุรี ชี้แจงว่าได้รับโทรศัพท์จาก ผกก.โจ้ช่วงค่ำ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา บอกว่าจะฆ่าตัวตาย ตนจึบอกว่าถ้าตายแล้วได้อะไร ถ้าเป็นตำรวจ มีเกียรติ ผิดต้องยอมรับผิด หนีไปก็ไม่ได้อะไร และนัดหมายไปรับตัวที่ชลบุรีเวลา 16:00 น.วันนี้ และรออยู่ตามนัดได้ประมาณ 15 นาทีก็มีรถยนต์มาจอด และผู้ที่เดินลงมาคือ ผกก.โจ้ ตนไม่ทันดูเลขทะเบียนรถ และหันมาอีกทีรถก็ขับออกไปแล้ว