- รมต.สิงคโปร์แนะรัฐบาลมุ่งเน้นธุรกิจ อย่ายุ่งเกี่ยวการเมืองในเมียนมา
- ธุรกิจอาหาร/เครื่องดื่มสิงคโปร์หลายแบรนด์จึงถูกชาวเมียนมาคว่ำบาตร
- กลุ่มต่อต้านรัฐประหารเริ่มแคมเปญโดยระบุว่าสิงคโปร์ "หนุนเผด็จการ"
- คนไทยอาจคุ้นหูคุ้นตาหลายๆ แบรนด์ซึ่งมีกิจการสาขาในไทยเช่นกัน
กระแสคว่ำบาตรแบรนด์ธุรกิจสิงคโปร์ในเมียนมา เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.เป็นต้นมา เนื่องจาก ‘วิเวียน บาลากริชนัน’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสิงคโปร์ แถลงว่ารัฐบาลสิงคโปร์ควรมุ่งเน้นที่การลงทุนและการดำเนินธุรกิจตามปกติ ในฐานะที่สิงคโปร์เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่สุดในเมียนมาเมื่อเทียบกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ แม้จะเกิดรัฐประหาร แต่รัฐบาลสิงคโปร์ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับประเด็นการเมืองเมียนมา
ผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในเมียนมาไม่พอใจท่าทีดังกล่าวของ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ จึงรณรงค์คว่ำบาตรสินค้าจากสิงคโปร์ที่ไปลงทุนขยายสาขาในเมียนมา ทั้งยังมีผู้แชร์ภาพสินค้าหลายแบรนด์ที่ระบุว่าเป็นกิจการของสิงคโปร์ในสื่อออนไลน์จำนวนมาก
เฉพาะใน ‘ทวิตเตอร์’ มีผู้เผยแพร่ภาพแบรนด์สิงคโปร์ที่มีผู้เรียกร้องให้คว่ำบาตรเกือบหมื่นครั้งในวันที่ 17 ก.พ. โดยระบุเหตุผลว่า สิงคโปร์ไม่เคารพเสียงของประชาชนเมียนมา ทั้งยังสนับสนุน ‘เผด็จการทหาร’ ซึ่งคำดังกล่าวเป็นคำที่คณะรัฐประหารเมียนมาประกาศห้ามสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศใช้เรียกรัฐบาลของตนที่มาจากการยึดอำนาจ
ส่วนแบรนด์สินค้าสิงคโปร์ที่ถูกคว่ำบาตรในเมียนมา มีตั้งแต่เบียร์ Tiger, ร้านราเมนอิปปุโด, ร้าน Ya Kun Kaya Toast ขนมปังสังขยา, ร้านชาบู Beauty in the Pot และร้านเบเกอรี่ Breadtalk ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงใดๆ หลังจากถูกผู้ชุมนุมชาวเมียนมาประกาศคว่ำบาตร และยังไม่อาจประเมินได้ว่ากิจการสาขาในเมียนมาจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด