ความคืบหน้าเหตุระเบิดและไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ช่วงเช้าวันที่ 6 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเสียงปะทุใต้ดินขึ้น 3 ครั้งเมื่อเวลาประมาณ 07:00-07:20 น. และมีควันไฟกับเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นอีกรอบ หลังจากเจ้าหน้าที่และหน่วยอาสาต่างๆ ช่วยกันควบคุมไฟได้ช่วงกลางดึก 5 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ในที่สุดก็ควบคุมเพลิงได้ด้วยการฉีดโฟมเข้าใส่ที่เกิดเหตุ
ส่วนประชาชนที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดเหตุที่ต้องอพยพหนีภัย ยังไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้ามาในพื้นที่ เพราะยังมีความเสี่ยงทั้งควันพิษที่เกิดจากสารเคมีที่ถูกเผาไหม้ และอาจเกิดไฟปะทุลุกไหม้รอบใหม่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งปิดการจราจรบริเวณซอยกิ่งแก้วต่อในวันนี้
ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์จำนวนมากทวีตข้อความเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลดูแลสุขภาพเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิง, ปภ., อาสาสมัครดับเพลิงและกู้ภัยที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องในการควบคุมเหตุระเบิดและไฟไหม้ที่โรงงานดังกล่าว เพราะเกรงว่าผู้ทำหน้าที่จะได้รับผลกระทบจากการสูดดมควันพิษเป็นเวลานาน
ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กเพจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่ข้อความช่วงก่อนเที่ยงคืน 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่าเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะดำเนินการเยียวยาหรือมีมาตรการรับมือผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างไรต่อไป
"กรณีเพลิงไหม้โรงงานสารเคมีที่ ซ.กิ่งแก้ว 21 จนมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิต 1 นาย และผู้มีบาดเจ็บจำนวนมาก ผมขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต คือนายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ และขอสดุดีวีรกรรมของอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ทุกท่านในการเสี่ยงอันตรายเพื่อป้องกันภัยให้กับผู้อื่นในอุบัติเหตุครั้งนี้"
"ผมได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด และได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ระดมกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชนและผู้บาดเจ็บอย่างเต็มที่ และรายงานสถานการณ์ให้ผมทราบอย่างต่อเนื่อง" นายกฯ ระบุผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งไม่อนุญาตให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายอื่นๆ แสดงความคิดเห็นท้ายโพสต์