'คิมจองอึน' ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ปรากฏตัวผ่านสื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลพรรคแรงงานเป็นครั้งแรกในรอบเกือบเดือน เมื่อ 5 มิ.ย.2564 ในสภาพที่ดูเหมือนน้ำหนักตัวลดลงจากเดิมมาก ทำให้มีกระแสข่าวว่าเขาสุขภาพไม่แข็งแรงกลับมาอีกครั้ง แต่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเกาหลีใต้ไม่ได้ยืนยันว่าข่าวนี้มีมูลความจริงอย่างไรหรือไม่
สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้ รายงานอ้างอิงบทวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญด้านคาบสมุทรเกาหลี เชื่อว่าการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคแรงงานเพื่อกำหนดนโยบายการทำงานประจำปีที่จัดขึ้นเป็นประจำช่วงต้นเดือน มิ.ย. ไม่ถูกรายงานผ่านสื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา ทั้งยังไม่มีการรายงานสรุปผลการประชุมอย่างที่ควรจะเป็น
ขณะที่ The New York Times สื่อสหรัฐอเมริกา รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวที่เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือ ระบุว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือได้ปรับเปลี่ยนบทลงโทษผู้นำเข้าสื่อและวัฒนธรรมต่างชาติให้หนักกว่าเดิม โดยเฉพาะผู้นำเข้าสินค้าที่เกี่ยวกับภาพยนตร์ เพลง ละครโทรทัศน์ และสิ่งอื่นๆ ที่ถูกนิยามว่าเป็นวัฒนธรรมเคป็อปของเกาหลีใต้
เดอะนิวยอร์กไทม์สรายงานว่า ผู้นำคิมและผู้บริหารรัฐบาลเกาหลีเหนือหลายรายได้แถลงประณามทรงผมและการสวมกางเกงยีนส์ขาดรุ่ยตามแฟชั่นของเกาหลีใต้ว่าเป็นน่าละอาย และเปรียบเทียบว่าวัฒนธรรมต่างชาติ ซึ่งสื่อตะวันตกระบุว่าหมายถึงวัฒนธรรมเคป็อปของเกาหลีใต้ว่าเป็น "มะเร็งร้าย" บั่นทอนวินัยและอุดมการณ์ของเยาวชนรุ่นใหม่ในเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะการเปลี่ยนคำเรียกคนรอบตัวจาก 'comrades' หรือ 'สหาย' ตามแนวคิดคอมมิวนิสต์ไปเป็นคำว่า 'อปป้า' และ 'ทงแซง' ที่มีความหมายเชิงพี่น้อง
ก่อนหน้านี้ ผู้นำเกาหลีเหนือเคยผ่อนผันคำสั่งห้ามนำเข้าวัฒนธรรมต่างชาติเมื่อปี 2555 แต่หลังจากการพูดคุยกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จบลงโดยไม่อาจหาข้อตกลงร่วมกันได้เมื่อปี 2562 และไม่ได้ช่วยยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรบังคับใช้กับเกาหลีเหนือ ยิ่งทำให้เกาหลีเหนือออกมาตรการที่เคร่งครัดมากขึ้นเพื่อควบคุมอิทธิพลของต่างชาติที่อาจจะส่งผลต่อความคิดของประชาชนในเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม คำสั่งควบคุมและปิดกั้นการนำเข้าสื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมต่างชาติถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ 'ล่าช้าเกินไป' เพราะ NK Daily รายงานว่าชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์นับร้อยคนที่หลบหนีข้ามฝั่งมายังเกาหลีใต้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยืนยันว่าครัวเรือนในเกาหลีเหนือลอบซื้อสินค้าเกี่ยวกับเคป็อปในตลาดมืดกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เพลง ละครซีรีส์ต่างๆ ถูกนำเข้าจากจีนในรูปแบบแฟลชไดรฟ์หรือซีดี โดยซีรีส์ Crash Landing on You ซึ่งมีเนื้อหาสมมติเกี่ยวกับทหารเกาหลีเหนือกับนักธุรกิจหญิงเกาหลีใต้ แสดงโดยฮยอนบินและซนเยจิน เป็นที่นิยมอย่างลับๆ ในหมู่ชาวเกาหลีเหนือเช่นกัน
จองควังอิล ชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ให้สัมภาษณ์เดอะนิวยอร์กไทม์สเพิ่มเติม โดยระบุว่า คนรุ่นใหม่ในเกาหลีเหนือเป็นจำนวนมากไม่ได้รู้สึกว่าพวกเขาติดค้างอะไรคิมจองอึน ต่างจากคนรุ่นก่อนหน้าที่ถูกปลูกฝังมาให้เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของพรรคแรงงานและผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ ทำให้ภาครัฐเพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการกำกับและควบคุมความคิดของคนรุ่นใหม่ เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้โครงสร้างอำนาจที่สืบทอดกันทางสายเลือดของตระกูลคิมเสื่อมสลายลงได้
ทว่าระบบเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองและข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเกาหลีใต้และโลกภายนอก ส่งผลให้คนรุ่นใหม่ตั้งคำถามกับสภาพสังคมรอบตัวในเกาหลีเหนือ แต่ผู้ที่ถูกจับได้ว่าเสพข้อมูลต่างชาติจะถูกลงโทษด้วยการส่งไปใช้แรงงานในค่ายกักกัน และรัฐบาลยังเสนอให้ปรับแก้บทลงโทษผู้กระทำผิดในข้อหานี้อย่างรุนแรงกว่าเดิมด้วย