x

สรุป

  • 'กัล กาโดท' นักแสดงสาวชาวอิสราเอลที่สร้างชื่อจากภาพยนตร์ 'Wonder Woman'  โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียเรียกร้องสันติภาพท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ที่กำลังตึงเครียด  แต่กลับถูกผู้ใช้โซเชียลมีเดียวิจารณ์หนักว่าเสแสร้งและเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลอิสราเอล
  • การต่อสู้รอบล่าสุดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ที่ปกครองฉนวนกาซาปะทุขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังเกิดความตึงเครียดมาหลายสัปดาห์ระหว่างอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์ในเยรูซาเลมตะวันออก 
  • สหประชาชาติกังวลว่า ความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์รอบล่าสุด จะลุกลามเป็นสงครามเต็มรูปแบบ 

'กัล กาโดท' นักแสดงสาวชาวอิสราเอลที่สร้างชื่อจากภาพยนตร์ 'Wonder Woman' โพสต์ข้อความเรียกร้องสันติภาพท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์ กำลังทวีความตึงเครียด อย่างไรก็ตาม ข้อความของเธอมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและผู้ที่วิจารณ์รุนแรงว่า 'เสแสร้ง' 

กาโดทแชร์โพสต์ผ่านทวิตเตอร์และอินสตาแกรม โดยมีข้อความระบุว่า “หัวใจของฉันแตกสลาย ประเทศของฉันอยู่ในสงคราม ฉันเป็นห่วงครอบครัว เพื่อน และทุกคน นี่เป็นวงจรเลวร้ายที่เกิดมายาวนานเกินไป อิสราเอลสมควรที่จะได้ใช้ชีวิตในฐานะประเทศที่อิสระและปลอดภัย เพื่อนบ้านของเราก็เช่นกัน ฉันสวดภาวนาในกับเหยื่อทุกคนและครอบครัวของพวกเขา ให้ความเป็นศัตรูที่ไม่อาจจินตนาการได้นี้จบลงเสียที ฉันสวดภาวนาให้ผู้นำของเราหาทางแก้ปัญหาให้ได้ เพื่อให้เราได้อยู่เคียงข้างกันอย่างสันติ ฉันสวดภาวนะเพื่อวันที่ดีขึ้นกว่าเดิม”

'กัล กาด็อท' โพสต์เรียกร้องสันติภาพอิสราเอล-ปาเลสไตน์ แต่ถูกวิจารณ์หนัก

แม้ข้อความของนักแสดงสาวจะมีเนื้อหาเรียกร้องสันติภาพ แต่กลับถูกวิจารณ์หนักจากผู้ใช้โซเชียลมีเดียจนเธอต้องปิดฟังก์ชั่นตอบกลับ โดยบางคนกล่าวหาว่านี่เป็นความกลับกลอกเสแสร้งเมื่อมองว่าเธอคือชาวอิสราเอล และยังเคยโพสต์สนับสนุนกองกำลังป้องกันอิสราเอล หรือ ไอดีเอฟ รวมถึงยังเคยเป็นทหารในไอดีเอฟเป็นเวลา 2 ปี แม้นั่นเป็นข้อกำหนดที่พลเมืองอิสราเอลอายุ 18 ปีขึ้นไปต้องทำ แต่ช่วงเวลาดังกล่าวก็ทำให้เธอได้เป็นประจักษ์พยานการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์หรือแม้แต่สนับสนุนการกระทำนั้น โดยผู้ใช้โซเชียลมีเดียบางคนวิจารณ์ว่า เธอจะสนับสนุนให้ยุติวงจรอุบาทว์ได้อย่างไรเมื่อตัวเองก็เคยเป็นส่วนหนึ่งของมัน ส่วนบางคนก็บอกว่านักแสดงสาวกำลังทำตัวเป็นเครื่องมือของโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลและกองทัพผู้ยึดครองที่เธอเคยทำงานให้ กาโดทไม่แม้แต่เขียนคำว่า “ปาเลสไตน์” ด้วยซ้ำ

ด้าน 'แอรอน วัลลีย์' นักเขียนและนักเคลื่อนไหวบอกว่า ข้อความนี้ของกาโดทแย่ยิ่งกว่ามิวสิกวิดีโอเพลง 'Imagine' ที่เธอชวนเพื่อเซเลบริตี้มาร้องเมื่อปีที่แล้วเสียอีก โดยคำว่าอิสระและปลอดภัยเป็นคำเดียวกับที่ทำให้เกิดการใช้กำลังทหารยึดครอง ขโมยแผ่นดินและกวาดล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ขณะที่ 'เจมส์ เคนเนดี' นักร้องและนักแต่งเพลงบอกว่า สิ่งที่กาโดทโพสต์นั้นผิด เพราะอิสราเอลไม่ได้ทำ 'สงคราม' กับปาเลสไตน์ แต่กำลังเข่นฆ่าชาวปาเลสไตน์อีกครั้ง   

แต่อีกด้านหนึ่งก็มีคนที่เห็นต่างและให้กำลังใจกาโดท โดยบอกว่าผู้ใช้อินเทอร์เน็ตโกรธเธอเพียงเพราะเธอเคยเป็นทหารในกองกำลังป้องกันอิสราเอล ซึ่งการเข้าประจำกองทัพเป็นกฎที่ประชาชนทุกคนต้องทำตาม โดยหนึ่งในคนดังที่ทวีตให้กำลังใจนักแสดงสาวก็คือ 'เท็ด ครูซ' สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน 

ความรุนแรงรอบล่าสุดอิสราเอล-ปาเลสไตน์ เกิดขึ้นได้อย่างไร 

สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเลมตะวันออก ฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ ดำเนินมายาวนาน โดยเมื่อปี 2523 อิสราเอลผนวกเยรูซาเลมตะวันออกและมองว่าเยรูซาเลมทั้งหมดเป็นเมืองหลวงของประเทศ แม้ไม่ได้รับการรับรองจากประเทศส่วนใหญ่ในโลก ขณะที่ปาเลสไตน์ต้องการให้เยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวงของตัวเองหากสามารถสร้างรัฐของตัวเองขึ้นมาได้ 

ขณะที่การต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส กลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ที่ปกครองฉนวนกาซาที่ปะทุขึ้นล่าสุดในช่วงสัปดาห์นี้ เกิดขึ้นหลังมีการเผชิญหน้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างชาวปาเลสไตน์กับตำรวจอิสราเอลที่เนินพระวิหารในเยรูซาเลมตะวันออก ซึ่งเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ของทั้งชาวมุสลิมและชาวยิว หนึ่งในเหตุปะทะครั้งสำคัญคือเมื่อวันจันทร์ที่ 10 พ.ค. มีชาวปาเลสไตน์กว่า 300 คน ซึ่งไปประกอบพิธีทางศาสนาช่วงเดือนรอมฎอนที่มัสยิดอัล-อักซอ ในเมืองเก่าเยรูซาเลม ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับตำรวจอิสราเอล 

กลุ่มฮามาสเรียกร้องให้อิสราเอลถอนกำลังตำรวจออกจากพื้นที่ดังกล่าวและ 'ชีค จาร์ราห์' ย่านใกล้เคียงที่คนอาหรับอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งครอบครัวชาวปาเลสไตน์หลายครอบครัวในย่านนี้ต้องเผชิญการฟ้องขับไล่โดยชาวยิวที่เข้าไปตั้งถิ่นฐาน โดยเมื่อข้อเรียกร้องไม่ได้รับการตอบรับ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมากลุ่มฮามาสก็ได้ยิงจรวดเข้าไปในอิสราเอล ขณะที่อิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศฉนวนกาซาโดยบอกว่าพุ่งเป้าโจมตีไปที่ฐานของฮามาส และการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซาเมื่อวันพุธที่ 12 พ.ค. เป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557  

รายงานระบุว่าจนถึงตอนนี้ มีผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วอย่างน้อย 67 คน และมีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลแล้ว 7 คน โดยสหประชาชาติแสดงความกังวลว่านี่จะกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ

ขณะที่ประธานาธิบดี 'โจ ไบเดน' ของสหรัฐฯ ต่อสายตรงถึงนายกรัฐมนตรี 'เบนจามิน เนทันยาฮู' ของอิสราเอลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา บอกว่าสหรัฐฯ สนับสนุนความมั่นคงของอิสราเอล แต่ก็ชี้ว่าจำเป็นต้องฟื้นฟูความสงบที่ยั่งยืน ส่วนกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียอ้างอิงโฆษกของกลุ่มฮามาส ซึ่งบอกว่าทางกลุ่มพร้อมหยุดยิงหากอิสราเอลยุติการกระทำรุนแรงในเยรูซาเลมตะวันออก และมาตรการผิดกฎหมายต่างๆ ด้วยความเคารพต่อชาวอาหรับพื้นเมือง

 

อ้างอิง 
อ่านเพิ่มเติม
↑