Skip to main content

เครือข่าย Climate Café ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้มานั่งจิบชา ดื่มกาแฟ  และพูดคุยเกี่ยวกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเรื่องสิ่งแวดล้อมในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญหน้ากับผลกระทบทางธรรมชาติ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกลายเป็นเรื่องที่สร้างความหวาดกลัวให้กับใครหลายคน ผู้คนมากมายเกิดความรู้สึกไม่แน่นอน มีภาวะตึงเครียด วิตกกังวล หรืออาจรู้สึกผิด เมื่อเผชิญหน้ากับความจริงของปัญหาเรื่องสภาพแวดล้อมที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ถือเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับใครหลายคนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกมันเพียงลำพัง และยิ่งไปกว่านั้น ภาวะโลกร้อนยังเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อน มีหลายมิติและหลายแง่มุมเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งการเมืองและความเป็นธรรมทางสังคม ซึ่งล้วนทำให้เรื่องภาวะโลกร้อนกลายเป็นหัวข้อที่ยากในการพูดคุย

“การพูดคุยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องยาก เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสร้างความเจ็บปวดให้กับพวกเรา แต่เราจำเป็นต้องพูดถึงมัน เราต้องบอกให้ได้ว่ามันส่งผลกระทบอย่างไรต่อพวกเรา เราต้องพูดถึงมันอย่างลึกซึ้งเพื่อจะหาทางแก้ไขที่สร้างสรรค์และชัดเจน” รีเบคก้า เนสเตอร์ จากองค์กร Climate Psychology Alliance กล่าว

รีเบคก้าเริ่มจัดงานรวมตัวของผู้คนในเมืองอ็อกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เพื่อให้คนทั่วไปสามารถมาพูดคุยและหารือเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมกับจิบชาและกินขนมไปด้วย ซึ่งการรวมตัวครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 2018 และเป็นปีที่อากาศร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ จึงทำให้การพูดคุยกันในครั้งนั้นได้รับความสนใจและเกิดการพูดคุยเพิ่มมากขึ้น

“ไม่มีวิทยากรรับเชิญหรืองานเสวนา แต่มันเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนที่อยากมาร่วมพูดคุยกันหรือเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม และไม่มีการบังคับให้เปลี่ยนใจในเรื่องใดๆ ก็ตาม” รีเบคก้ากล่าว

Climate Café ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดของ Death Café ที่ผู้คนสามารถพูดคุยอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความตายและวางแผนงานศพของตัวเอง ขณะที่นั่งดื่มเครื่องดื่มสักแก้ว อย่างไรก็ตาม ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 การรวมกลุ่มของชาว Climate Café ถูกย้ายไปยังโลกออนไลน์ ซึ่งทำให้แนวคิดเรื่องการพูดคุยเรื่องภาวะโลกร้อนขยายไปยังองค์กรอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร ก่อนจะกลายเป็นเครือข่าย Climate Café ที่เปิดพื้นที่ให้คนทั่วไปเข้ามาพูดคุยกันเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และกระจายตัวไปยังเมืองอื่นๆ ทั่วโลก

“แม้จะมีพื้นที่สำหรับนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมและสนับสนุนให้ผู้คนลุกขึ้นมาจัดการกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ แต่มันมีพื้นที่เพียงน้อยนิดที่จะเปิดโอกาสให้ผู้คนพูดถึงผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศต่อสภาพจิตใจของคนๆ หนึ่ง” คีรัต ดามี ผู้ก่อตั้ง Our Climate Café ใรออนแทรีโอ กล่าว

เช่นเดียวกับ Climate Café ของมหาวิทยาลัยฮัลล์และสภาเมืองยอร์ก ที่มีเป้าหมายมากกว่าจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการพูดคุยเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ยังต้องการวางแผนหรือมองหาความเป็นไปได้ที่คนทั่วไปสามารถทำได้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“ชุมชนและผู้อยู่อาศัยมีส่วนสำคัญในการช่วยรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสภาพอากาศ หากนักวิชาการ ผู้ปฏิบัติงาน และผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นนั้นๆ สามารถแบ่งปันแนวคิดและหาแนวทางแก้ไขได้ เราก็จะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมแห่งการฟื้นฟูได้มากกว่าความกลัวและความรู้สึกไม่แน่นอน” ดร.สตีเฟน ฟอร์เรส อาจารย์ประจำสถาบันพลังงานและสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยฮัลล์ กล่าวปิดท้าย 

ข้อมูลอ้างอิงจาก

เว็บไซต์เครือข่าย

Instagram climate.cafe
Climate cafes offer a safe space to discuss climate change
Introducing ‘climate cafes’, where you drink tea and talk global warming