Skip to main content

"มูราวาห์ จอห์นสัน" (Murrawah Johnson) หญิงชาวพื้นเมืองออสเตรเลีย ได้รับรางวัลโกลด์แมนไพรซ์ (Goldman Prize) ด้านสิ่งแวดล้อมประจำปี 2024 โดยเธอเป็น 1 ใน 7 ของนักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่คว้ารางวัลดังกล่าวมาครอง ซึ่ง ‘รางวัลโกลด์แมนไพรซ์เพื่อนักสิ่งแวดล้อม’ (The Goldman Environmental Prize) เปรียบเสมือนรางวัลโนเบลของขบวนการเคลื่อนไหวทางด้านสิ่งแวดล้อมก็ว่าได้

 

บนเว็บไซต์ Goldman Prize บรรยายถึงมูราวาห์ว่า เธอและกลุ่ม Youth Verdict ชนะคดีสิ่งแวดล้อมที่เป็นหมุดหมายสำคัญ คือการสกัดกั้นการกลับมาของเหมืองถ่านหิน ‘วาราทาห์’ ในรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งเจ้าของเป็นนักการเมืองที่มั่งคั่ง และผู้ทรงอิทธิพลรายใหญ่
 

เหมืองถ่านหินวาราทาห์ มีแผนที่จะขุดพื้นที่สงวนทางธรรมชาติในแอ่งกะทะกาลิลี เพื่อนำถ่านหินออกมาขายจำนวน 40 ล้านตันต่อปี ทางกลุ่ม Youth Verdict ทำการปกป้องพื้นที่ดังกล่าว โดยการฟ้องคดีต่อศาลในรัฐควีนส์แลนด์ และนับเป็นครั้งแรกที่ศาลรับฟังหลักฐานจากกลุ่มคนพื้นเมือง
 



เธอในฐานะผู้อำนวยการร่วมของ Youth Verdict ร่วมกับสำนักงานกฎหมายปกป้องสิ่งแวดล้อม นำเรื่องขึ้นศาลที่ดินรัฐควีนส์แลนด์ เธอให้เหตุผลต่อศาลว่า การเผาถ่านหินจากเหมืองวาราทาห์จะก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกและส่งผลให้สภาพภูมิอากาศเลวร้ายลง โครงการเหมืองถ่านหินจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและสิทธิทางวัฒนธรรมของคนพื้นเมืองดั้งเดิมทั่วทั้งควีนส์แลนด์และพื้นที่อื่นๆ ศาลรับฟังและเห็นด้วย จึงเปิดให้มีการไต่สวนคดี 
 

มูราวาห์ ได้ยับยั้งการพัฒนาเหมืองถ่านหินวาราทาห์ ซึ่งจะทำลายพื้นที่สงวนทางธรรมชาติ บิมเบิลบ็อกซ์ กว่า 20,000 เอเคอร์ หรือราว 80 ตร.กม. และผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1.58 พันล้านตันสู่ชั้นบรรยากาศตลอดอายุของเหมือง ทั้งยังคุกคามสิทธิและวัฒนธรรมของคนพื้นเมือง การชนะคดีเหมืองถ่านหินมูราวาห์ในปี 2023 เป็นการวางหลักให้กับการพิจารณาคดีของกลุ่มคนพื้นเมืองอื่นๆ ที่ต่อสู้กับเหมืองถ่านหิน โดยโยงกับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิทธิของคนพื้นเมือง
 

คดีนี้ยังเป็นครั้งแรกในการทดสอบความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายสิทธิมนุษยชนฉบับใหม่ของรัฐ ซึ่งประสบความสำเร็จจากการหยิบยกประเด็นเรื่องมลพิษจากการเผาไหม้ถ่านหินขึ้นมาเป็นข้อต่อสู้ ส่งผลให้เหมืองถ่านหินวาราทาห์ ถอนการยื่นอุทธรณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และอีกสองเดือนถัดมาทางรัฐควีนส์แลนด์ก็ประกาศให้มีการปิดเหมือง
 

หลังชนะคดีความกับเหมืองถ่านหินวาราทาห์ มูราวาห์ ได้รับรางวัลทางด้านสิทธิมนุษยชน Young Voltaire Award ในปี 2023 
 

มูราวาห์กล่าวว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมกับนักรณรงค์อื่นๆ ในการกระตุ้นชาวออสเตรเลียซึ่งเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในการต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม ในการสกัดกั้นการทำเหมืองทราย และต่อสู้กับการทำเหมืองแร่ยูเรเนียมในอุทยานแห่งชาติคาคาดู แหล่งความหลากหลายทางชีวภาพขนาดมหึมาทางตอนเหนือของออสเตรเลีย และปกป้องการทำลายแม่น้ำแฟรงกลิน ในเกาะแทสมาเนีย ซึ่งการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมนำไปสู่การก่อตัวของขบวนการสีเขียวในออสเตรเลีย
 

เธอกล่าวว่า การต่อสู้ของคนพื้นเมืองชาวออสเตรเลียเพื่อป้องกันวิกฤตสภาพอากาศ นอกจากเพื่อให้ได้รับการยอมรับในสิทธิบนแผ่นดินดั้งเดิมของตัวเอง ยังเป็นไปเพื่อการรักษาวัฒนธรรมพี้นเมือง เรื่องเล่า และรูปสลักตามความเชื่อ 
 


 

ปัจจุบัน มูราวาห์ในวัย 29 ปี เธอเป็นคุณแม่ของลูกสอง ซึ่งคนหนึ่งอยู่ในครรภ์ เธอเริ่มต้นการเป็นนักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่อายุ 19 ปี โดยรณรงค์เพื่อสิทธิของคนพื้นเมืองในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเชื้อเพลิงจากฟอสซิลมานานเกือบ 10 ปี 
 

เธอกล่าวว่า ขณะนี้อัตลักษณ์และวัฒนธรรมของคนพื้นเมืองเหมือนอยู่แขวนบนเส้นด้าย และเสี่ยงต่อการล่มสลาย 
 

“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าสายพันธุ์ต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตสูญพันธุ์ไปจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คนของเราจะยังมีตัวตนอยู่ได้ยังไง เพราะมันเป็นวิธีที่พวกเราสัมพันธ์กับทุกคนที่อยู่รอบตัว เป็นวิธีที่คุณจะมีที่ทางของตัวเองบนโลก” มูราวาห์กล่าว

การต่อสู้กับอำนาจและอิทธิพลของอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลนั้นเลวร้าย แต่มูราวาห์ได้เลือกสิ่งนี้และต่อสู้เพื่อคนพื้นเมืองที่ถูกขับไล่ออกจากดินแดนของตัวเองในอดีต ซึงเธอได้รับมรดกตกทอดความเจ็บปวดเหล่านั้นมา
 

ในอนาคต เธอต้องการให้ Youth Verdict เป็นผู้ขับเคลื่อนเพื่อยืนยันสิทธิของของคนพื้นเมือง และผลักดันให้ได้เกิดการยอมรับในทางกฎหมาย หรือในความรู้สึกนึกคิดของสาธารณชน
 

“การต่อสู้นี้เป็นที่ที่โดดเดี่ยว และพบว่าตัวเองเกิดถามว่าที่ทำไปทั้งหมดนี้เพื่ออะไร ฉันคอยเตือนตัวเองว่า บางครั้งก็แค่ต้องทำภารกิจให้ลุล่วง เพราะมันเป็นการทำในสิ่งที่ถูกต้อง” มูราวาห์กล่าว

 

ที่มา:

First Nations woman one of seven global winners of prestigious Goldman prize for environmental activism

2024 GOLDMAN PRIZE WINNER Murrawah Maroochy Johnson