ร้านรวงในสหรัฐฯ ตั้งแต่ Home Depot และ Lowes ไปจนถึงร้านค้าระดับชุมชน ปรับขึ้นราคาต้นคริสต์มาสกันยกแผง แต่ชาวอเมริกันยังคงยื้อแย่งซื้อหากันต่อเนื่องในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและเศรษฐกิจ ตามรายงานของเอพี
กลุ่มผู้ปลูกต้นคริสต์มาสในอเมริกาบางส่วน แสดงความกังวลจากปัจจัยกระทบภายนอก ทั้งราคาเชื้อเพลิง ค่าปุ๋ย และค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ก่อนที่จะพบว่าต้นคริสต์มาสเป็นความเขียวชอุ่มที่แข็งแกร่งต้านแรงเสียดทานจากเงินเฟ้อ แม้ว่าชาวอเมริกันจะหันหลังให้กับการจับจ่ายในห้างค้าปลีกลงเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นมหกรรมการช้อปปิ้งแห่งปีก็ตาม
สำหรับ ราคาเฉลี่ยของต้นคริสต์มาส ที่เซาท์ พอร์ตแลนด์ ในรัฐเมน แพงขึ้นราว 5-70 ดอลลาร์ (170 - 2,400 บาท) เมื่อเทียบกับราคาต้นคริสต์มาสเมื่อปีที่แล้ว
การสำรวจผู้ค้าส่งต้นคริสต์มาส 55 ราย ยืนยันว่าพวกเขามีแผนจะขึ้นราคาจำหน่ายราว 5-15% แต่มีบางเจ้าที่ปรับขึ้นถึง 21% อ้างอิงจากข้อมูลของคณะกรรมการต้นคริสต์มาส ในรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นผู้เก็บข้อมูลด้านการตลาดและการวิจัยในอุตสาหกรรมนี้
ในอีกการสำรวจของหน่วยงานนี้ พบว่า 85% ของชาวอเมริกัน พบว่า ต้นคริสต์มาสคุ้มค่าในการซื้อแม้จะมีราคาพุ่งสูงขึ้นก็ตาม ด้วยเหตุผลที่ว่า ไม่ว่าต้นคริสต์มาสจะเป็นต้นจริงหรือต้นเทียม ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลนี้ เช่นเดียวกับของเล่น การ์ด การร้องเพลง และเสื้อกันหนาวคริสต์มาสสุดเฉิ่ม
เฉกเช่นประเพณีอื่นๆ รูปแบบของต้นคริสต์มาสและเงื่อนไขของตลาดจำหน่ายยังคงแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ของอเมริกา
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ต้นคริสต์มาสสดเกือบ 21 ล้านต้นจะนำมาจำหน่ายในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันคริสต์มาส และดันยอดขายให้ทัดเทียมกับยอดจำหน่ายต้นคริสต์มาสที่แข็งแกร่งมากเมื่อปีที่แล้ว อ้างอิงจากข้อมูลของสมาคมต้นคริสต์มาสแห่งชาติสหรัฐฯ
ด้านซูซาน อดัมส์ ลูกค้าต้นคริสต์มาสจากเซาท์ พอร์ตแลนด์ ในรัฐเมน กล่าวทิ้งท้ายกับเอพีว่า “มันคงไม่ใช่คริสต์มาสที่แท้จริงหากปราศจากต้นคริสต์มาส” พร้อมกับตัดสินใจซื้อต้นคริสต์มาสที่เล็กลงในปีนี้
ที่มา : VOAthai