Skip to main content

เทนเซ็นต์ (Tencent) ครองตำแหน่งสูงสุดในบรรดาผู้ให้บริการระบบคลาวด์ ในการจัดอันดับล่าสุดของกรีนพีซ เอเชียตะวันออกด้านการใช้พลังงานหมุนเวียนที่สะอาดสำหรับภาคเทคโนโลยี ซึ่งการจัดอันดับครั้งนี้ทำให้เทนเซ็นต์เอาชนะอาลีบาบา (Alibaba) ซึ่งตกไปอยู่ในอันดับที่สี่ ส่วนชินดาต้า (Chintada) ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีได้อีกครั้ง

"ภาคอินเทอร์เน็ตของจีนใช้ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งปริมาณการใช้พลังงานของภาคธุรกิจนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมาบริษัทของจีนจำนวนมากเริ่มหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนและได้เปิดเผยข้อมูลการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ตาม การหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนของบริษัทต่างๆ ก็ยังไม่เร็วพอ โดยเฉพาะเมื่อเราพิจารณาว่าบริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง อาลีบาบา และ จีดีเอส (GDS) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายใหญ่ที่สุดยังไม่ได้ประกาศคำมั่นสัญญาด้านการใช้พลังงานหมุนเวียน หรือ ความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality)" เย่ รุ่ยฉี ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ เอเชียตะวันออก กล่าว

ผลจัดอันดับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของกรีนพีซ

เทนเซ็นต์ ได้รับการจัดอันดับเป็นที่หนึ่งในหมู่ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ของจีน เนื่องจากความก้าวหน้าโดยรวมของบริษัท รวมถึงบันทึกข้อมูลเชิงบวกด้านความโปร่งใสการจัดหาพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น และได้ออกประกาศไปเมื่อเร็วๆ นี้ว่าบริษัทจะดำเนินการด้านความเป็นกลางของคาร์บอน ในทางตรงกันข้าม อาลีบาบาถูกลดอันดับลงจากอันดับที่หนึ่งลงมาสู่อันดับที่สี่ในประเภทผู้ให้บริการระบบคลาวด์ อันเป็นผลมาจากการขาดความโปร่งใส และประสิทธิภาพการใช้พลังงานหมุนเวียน

จนถึงปัจจุบัน บริษัท ชินดาต้า (Chindata) เป็นบริษัทเทคโนโลยี ซึ่งดำเนินการด้านศูนย์ข้อมูลเพียงรายเดียวของจีน ที่ได้ให้คำมั่นว่าจะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 ปีที่แล้วชินดาต้าได้ลงนามสัญญาเพื่อพัฒนาโครงการพลังงานลม และ แสงอาทิตย์ ขนาด 1.3 กิกะวัตต์ใน มณฑลซานซีและเหอเป่ย ทำให้บริษัทเป็นหนึ่งใน 3 บริษัทที่ซื้อเชื้อเพลิงจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนโลกในปี 2563 ในขณะเดียวกัน บริษัท GDS ผู้ให้บริการด้านศูนย์ข้อมูลถูกลดอันดับลง จากอันดับสอง เป็นอันดับหก เนื่องจากขาดคำมั่นสัญญาด้านความเป็นกลางของคาร์บอนและความโปร่งใส

ในเดือน เม.ย. 2564  บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด 13 แห่งจาก 22 แห่งของจีนได้เริ่มจัดหาพลังงานจากแหล่งหมุนเวียนอย่างจริงจัง เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีเพียง 8 บริษัท อย่างไรก็ตามมีบริษัทด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนเพียงสองแห่งเท่านั้น ที่บันทึกอัตราการใช้พลังงานหมุนเวียนที่สูงกว่า 3 % คือ ชินดาต้า (51% ) และ ไป่ตู้ (9%)

ผลจัดอันดับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของกรีนพีซ

ธุรกิจศูนย์ข้อมูลของจีนเป็นแหล่งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สำคัญ และมีการเติบโตมากขึ้น การใช้พลังงานของภาคธุรกิจนี้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถึง 66% ระหว่างปี 2562 - 2566 ซึ่งคาดว่าการใช้ไฟฟ้าจากภาคธุรกิจนี้จะเทียบเท่ากับคู่แข่งอย่างออสเตรเลีย โดยปี 2561 ศูนย์ฐานข้อมูลของจีนใช้ไฟฟ้าจากถ่านหินขับเคลื่อนระบบ 73% 

กรีนพีซเรียกร้องให้บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของจีนตั้งเป้าใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 100 % และบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอน (ขอบเขต 1-3) ให้ได้ภายในปี 2573 การทำกิจกรรมเพื่อชดเฉยการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Offsets) ไม่สามารถทดแทนการลดการปล่อยก๊าซจากเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ บริษัทต่างๆ ต้องเพิ่มปริมาณการจัดหาพลังงานจากแหล่งพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง

"บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง อาลีบาบา และ จีดีเอส มีโอกาสที่จะผลักดันให้จีนเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้ แต่ปัจจุบันพวกเขากลับล้มเหลวตามคู่แข่ง ท้ายที่สุดแล้วเราต้องการให้บริษัทด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนทั้งหมดบรรลุเป้าหมายใช้พลังงานหมุนเวียนเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ และมีความเป็นกลางของคาร์บอนทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าภายในปี 2573 ซึ่งจะส่งผลดีต่อพันธสัญญาด้านสภาพภูมิอากาศของประเทศจีน" เย่ รุ่ยฉี กล่าว