Skip to main content

อรรถกานต์ พิมพ์วงศ์ อดีตโปรดิวเซอร์สถานีโทรทัศน์ หลังเกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการสื่อจึงตัดสินใจ ออกมาทำศูนย์เรียนรู้ ‘สวนในศีล’ การตัดสินใจครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นก้าวที่สำคัญ เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงในช่วงอายุที่มากแล้ว หากไปเริ่มงานใหม่อาจจะสู้คนรุ่นใหม่ไม่ได้ และขณะที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนงาน เพราะได้ทำรายการทีวีเป็นงานที่เรารักเราชอบมาก เมื่อเรียนจบมาทำงานทีวีเลย ไม่ได้คิดเปลี่ยนแปลงมาเส้นทางเกษตรกร แต่เกิดมาแรงบันดาลใจที่เราได้พบเห็นตอนทำงานเลยเปลี่ยนเส้นทางมา 

สวนในศีล

จุดเปลี่ยนมาเป็นเกษตรกร

เมื่อปี 54 น้ำท่วมที่สวนของแม่ยาย เรามาปลูกบ้านที่นี่ น้ำท่วมหนักมาก ต้นไม้ตาย ต้นขนุนตายสิบต้น ลูกกำลังอยู่ในท้อง เราทำข่าวทำรายการทีวีก็จะรู้เรื่องที่ไม่ค่อยดี กลัวลูกจะติดเกม ติดมือถือ ติดเทคโนโลยี จึงคิดว่าหาเรื่องให้มีกิจกรรมเล่นกับเขา ก็เลยยกแปลงดินขึ้นมาสักสองแปลงชวนเล่นขย้ำดินขย้ำทราย ปรากฎว่าเขาชอบเล่นได้นานๆ มาก เลยกลายเป็นกิจกรรมเราเล่นกับลูก แต่ตอนนั้นยังไม่มีความรู้และยังทำงานทีวีอยู่ มีเวลาก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง พอผักขึ้นก็ไม่สวยหรอกเอาไปแจกเพื่อนๆ เพื่อนๆ ฝากเงินมาให้หลาน ก็เป็นแบบกึ่งๆ ขาย กึ่งๆ แจก ทำไปเรื่อยๆ จนปีที่ในหลวงรัชกาลที่เก้าสวรรคต 

สวนในศีล

ทางสถานีมอบหมายให้ทำเรื่องอะไรให้กับพระองค์ท่านเป็นสารคดี จึงเลือกเกษตรทฤษฎีใหม่และเศรษฐกิจพอเพียง พอเราไปได้ความรู้จริง มันไม่ใช่สิ่งที่เราเคยรับรู้เลย พอพูดถึงเศรษฐกิจพอเพียงเรานึกถึงคนใส่เสื้อ ม่อฮ่อม ทำนา ทำเกษตรแล้วก็อยู่ จนๆ พอดีๆ มันไม่ใช่เลย เป็นการเข้าใจผิด จริงๆ แล้วหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ มีเงินอย่างเพียงพอ กินอย่างเพียงพอและสามารถรวยได้ เพราะในทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงสอนจนกระทั่งให้ทุกคนเลี้ยงตัวเองได้ และมีรายได้อย่างเพียงพอ ที่สำคัญสอนให้ทำแบรนด์ ถ้าจะทำธุรกิจ และหาสไตล์ของตัวเองและเมื่อทำแบรนด์ประสบความสำเร็จแล้ว ไปจับมือร่วมกับคนอื่น สนับสนุนทำธุรกิจร่วมกัน 

“มันไม่มีตรงไหนบอกให้จนหรือให้พอเลย เราก็เอ้ย มันไม่ใช่นี่หน่า กับอีกอันเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ คิดว่าเป็นเรื่องคุณลุงรู้เรื่องเกษตรแล้วมา เผยแพร่สอนชาวบ้าน แต่พอทำจริงๆ มันไม่ใช่” 

สวนในศีล

เข้ามาในสวนจะเจอกับอะไรบนพื้นที่ประมาณหนึ่งไร่ครึ่ง 

จะเจอความหลากหลายอยู่ในสวน พื้นที่ไม่ต้องมากแต่เราสามารถมีทุกอย่างที่อยากจะกิน 30 กว่าชนิด เน้นความหลากหลายแล้วลองปลูกดูว่าเราเน้นใช้จ่ายอะไรในเรื่องของกับข้าว เราก็ซื้อมาเลยปลูก อย่างน้อยรายได้ไม่ได้มาก แต่ค่าใช้จ่ายไม่มี เท่ากับเราเพิ่มรายได้  ที่นี่ทำสินค้าแปรรูป ก็อันนี้ก็คิดเอง เป็นเจ้าแรกเจ้าเดียว คือ ชากาฝากวุ้นว่านหางจระเข้ ก็คือสังเกตว่าเราตัดกาฝากแล้วเอาไปทิ้ง ก็ไปดูว่ามันมีสรรพคุณอย่างไร ปรากฎว่ามันมีงานวิจัยมีสรรพคุณทางยา เลยทำเป็นชากาฝากวุ้นว่านหางจระเข้ ปลูกเองแล้วนำมาแปรรูป เป็นสินค้าขายดีของสวน 

ในศูนย์เรียนรู้สอนอะไรบ้าง 

วิธีทำเกษตรง่ายๆ คือ อยากให้ทุกคนรู้สึกว่าเกษตรเป็นเรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่ง่ายจนใครมาทำก็ได้ แต่ข้างต้นอยากให้รู้สึกว่าเกษตรเป็นเรื่องง่าย ขั้นตอนไม่เยอะ จริงๆ การทำการเกษตรเป็นคำตอบหนึ่งทางออกหนึ่ง ที่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ถ้ามีโอกาสก็ลองทำดู หลายๆ คนบอกก็ใช่สิมีที่ไร่หนึ่งก็ทำได้นี่หน่า แต่จริงๆ ไม่ใช่ เกษตรไม่ใช่ปลูกแล้วก็ขายผลอย่างที่บอก อย่างเช่นเพาะต้นอ่อนทานตะวัน ผักบุ้ง ใช้พื้นที่แค่หนึ่งตารางเมตรปลูกได้ตั้งสิบสองถาด ไม่ต้องใช้แสงสิบวันก็ขายได้ ทำรายได้ได้แล้ว แล้วก็อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราสร้างแบรนด์ทำอะไร 

สวนในศีล

มันเป็นทางออกตอบโจทย์ได้ทางหนึ่ง ไม่จำเป็นทุกคนในประเทศนี้ต้องมาเป็นเกษตรกร ต้องทำเกษตร แต่ว่าถ้ามีโอกาสเป็นทางเลือกทางออกทางหนึ่งในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ มันก็ไม่ได้ง่ายแต่ก็ไม่ได้ยาก แต่ท่านไหนที่อยากจะทำ หนึ่งมีใจรักมีศรัทธาก่อน เพราะการเกษตรไม่ใช่มาถึงมีเงินซื้อที่ไถ่แล้วลง พอมีแรงบันดาลใจมีศรัทธาในการเกษตรแล้ว ทีนี้ก็ต้องมีความรู้ ต้องลองหาความรู้จากเกษตรจริงๆ 

“บางทีเราอยู่ในกรอบที่ไม่กล้าก้าวออกมาอย่างเนี่ย เขาเรียกเซฟโซน อยู่มาจนนั่นแล้ว ลองกล้าที่จะก้าวออกมาก็อาจจะเจอเส้นทางความสุข ความสำเร็จ อีกเส้นทางหนึ่ง แต่ต้องพร้อมก่อนนะ ไม่ใช่ตัดสินใจนึกๆ อยากลาออกมาทำการเกษตรก็ทำไม่ได้ต้องมีความพร้อมก่อน”