สุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์หลังจากศาลฎีกา มีคำสั่งยกฟ้องคดีฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพัก 396 แห่ง และโครงการก่อสร้างอาคารที่พักแฟลตตำรวจ ว่า ตนต้องตกอยู่ภายใต้กระแสการโจมตีว่าเป็นคนเลว คนทุจริต เกือบ 10 ปี อดทนอดกลั้นและอาศัยความจริงเข้ามาต่อสู้ ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรู้ว่าเราตั้งใจทำความดีให้กับชาติบ้านเมือง และประชาชน จะได้รับการคุ้มครอง
“ในระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจอธิปไตยแบ่งเป็นสามฝ่าย อำนาจตุลาการของศาล ยังเป็นที่พึ่งหลักของบ้านเมืองได้ คนที่ยึดมั่นในหลักการ ยึดมั่นในระบบขอให้มีกำลังใจ สำหรับตนทนทุกข์ทรมานใจมานาน ตอนนี้หมดทุกข์ หมดโศก พ้นเคราะห์ จะเดินหน้าทำงานให้กับประเทศชาติและประชาชนตามอุดมการต่อไป ในชีวิตของตนทุ่มเททำงานให้กับบ้านเมืองและประชาชนด้วยความสุจริต ไม่มีใจที่จะคิดคตทรยศต่อแผ่นดิน ไม่ใช่คนทุจริตคอรัปชั่น ทุกอย่างได้พิสูจน์แล้ว ใครที่เคยกล่าวหาโจมตี ตนขอโหสิให้”
เมื่อถามว่า ได้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาแล้ว จะดำเนินการฟ้องร้องกับผู้ทำให้เสียหายหรือไม่ สุเทพ เผยว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คิด หลังจากนี่จะไปกลับไหว้ศาลหลักเมือง ไหว้พระแก้วมรกต เพราะเวลาต่อสู้คดีตนได้ตั้งสัตย์อธิษฐาน ตนใช้ความจริงในการต่อสู้ ไม่ได้คิดหรือว่าโทษอะไรใครทั้งสิ้น
ต่อไปนี้จะเดินหน้าทางการเมืองอย่างไรนั้น “ตนต้องการสนับสนุนพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง ตนได้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลัง ที่มี ส.ส. 5 คน และมีรัฐมนตรี 1 คน เราทำประโยชน์ให้กับประชาชนมามาก ช่วงที่ก่อตั้งพรรคตนถูกโจมตีจากข้อมูลเท็จ แต่วันนี้ตนพ้นผิดมีกำลังใจในการเดินหน้าทางการเมืองต่อไป ยืนยันไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่จะขอสร้างนักการเมืองที่ดีมาทำงานเพื่อประชาชน
"อะไรที่ช่วยได้ก็ช่วย เคยลั่นสัจจะวาจาไว้แล้วตอนเดินขบวน ว่าจะไม่กลับไปยุ่งทางการเมือง ส่วนสมาชิกพรรคที่จะสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ตนก็ไม่ทราบว่าจะรอดหรือไม่ ต้องรอการตัดสินวันที่ 30 กันยายน ตนไม่มีพาวเวอร์อะไรมีแต่หัวใจ ทุกอย่างที่ทำทำเพื่อหัวใจ หัวใจที่รักชาติ รักแผ่นดิน รักประชาชน ยืนยัน ตนไม่มีอำนาจอะไรที่จะไปช่วยใครได้"