Skip to main content

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา และกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ร่วมแถลงข่าวพรรคชาติพัฒนาเชิญกรณ์ร่วมงานกับพรรค ที่บ้านของสุวัจน์ ถนนราชวิถี 

สุวัจน์ กล่าวว่า พรรคการเมืองทุกพรรคต้องเตรียมพร้อมเรื่องการเลือกตั้งที่จะมาถึง แม้จะยังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไร แต่พรรคเองเตรียมนโยบาย ผู้สมัคร และบุคลากรต่างๆ เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความสำคัญในการแก้ปัญหาประเทศ วันนี้วิกฤติที่สุดตลอดเวลาที่ทำงานการเมืองมา โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากสถานการณ์โควิด ทำให้รายได้หลักจากการท่องเที่ยวหายไป การผลิตหยุดชะงัก ผู้ประกอบการรายย่อยได้รับผลกระทบ และคนตกงาน รัฐบาลต้องกู้เงินมาแก้ปัญหาทำให้เกิดหนี้สิน แถมยังเจอกับสงครามที่ทำให้พลังงานและสินค้าราคาแพง พรรคจึงมองว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจได้อย่างไร ต้องรวมพลังกัน

สุวัจน์ เปิดเผยว่า มือเศรษฐกิจที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาตอนนี้ต้องเข้าใจปัญหาของคนรากหญ้า หนี้สิน และมีความอินเตอร์ที่เข้าใจของปัจจัยจากต่างประเทศ ทั้งดุลอำนาจ ภูมิรัฐศาสตร์ เงินเฟื้อโลก ฯลฯ พรรคชาติพัฒนาก็นึกถึงกรณ์ที่มีประสบการณ์ทั้งในภาคเอกชน การเงิน การคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่พาประเทศผ่านพ้นวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังระดับเอเชียและระดับโลก อีกทั้งยังมีการศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ถือว่ามีความอินเตอร์ จึงอยากเรียนเชิญกรณ์มาจับมือรวมพลังกัน

ด้าน กรณ์ กล่าวว่า ในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พรรคการเมืองต้องมีความชัดเจนในหลักการและเป้าหมายการทำงาน แต่ต้องมีความยืดหยุ่นในเส้นทางที่จะนำไปสู่เป้าหมาย ตัวเองมีเป้าหมายต้องการให้ประชาชนอยู่ดีกินดี แก้ไขปัญหาปากท้อง สร้างโอกาส ความหวัง การตัดสินใจที่จะจับมือกันในวันนี้ ทำให้เราทั้งสองคนมีโอกาสที่จะช่วยประชาชนได้ตามเป้าหมาย โอกาสที่จะขับเคลื่อนความคิดและนโยบายยิ่งมีมากยิ่งขึ้น ถ้าจับมือกันแล้วประชาชนได้ประโยชน์ แล้วจะไม่จับมือกันได้ยังไง

กรณ์ กล่าวต่อว่า ตัวเองได้รู้จักสุวัจน์มานาน ทำงานร่วมกันในช่วงวิกฤติพลังงานน้ำมัน ทำให้เห็นว่าปรัชญาการเมืองใกล้เคียงกันมาก แต่ไม่ว่าจะมีปรัญชาการเมืองอย่างไร หลักสำคัญคือ ปฏิบัตินิยม หรือ การลงมือทำ ซึ่งท่านเองก็ยึดหลักนี้มาตลอดทั้งในฐานะนักการเมืองและนักธุรกิจ ท่านลงมือทำจนเห็นผล การตัดสินใจจับมือกันจึงเป็นเรื่องง่าย

สุวัจน์ กล่าวเสริมว่า การแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ ต้องมีการเมืองที่มีเสถียรภาพ พรรคชาติพัฒนาทำการเมืองมา 30 ปีเต็ม อยู่บนพื้นฐานการทำการเมืองสร้างสรรค์ ประณีประนอม ไม่ขัดแย้ง และยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก วันนี้มีส่วนผสมที่ลงตัวทางการเมืองเป็นมืออาชีพจากกรณ์และทีมเวิร์คจากพรรคการเมืองที่มีประสบการณ์ พร้อมทั้งย้ำว่า วันนี้ไม่ได้เป็นการรวมพรรค แต่พรรคชาติพัฒนาเชิญกรณ์มาร่วมงานในนามบุคคล แต่จะมาอยู่ในตำแหน่งใด ถึงขั้นเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคหรือไม่ จะต้องมีการประชุมหารือภายในพรรคตามปฏิทินการเมืองอีกที

ส่วน กรณ์ ชี้แจงว่า พรรคกล้าก็เป็นเรื่องของพรรคกล้าที่เขาจะต้องพิจารณาว่าจะยังไงต่อ พร้อมยืนยันว่าไม่มีการยุบพรรค แต่ตัวเองได้หารือกับทีมงานในพรรคมาก่อนแล้ว ซึ่งทุกคนเห็นตรงกันและมาร่วมงานเป็นทีมเศรษฐกิจกับพรรคชาติพัฒนาด้วย แต่เรื่องอื่นๆ รวมถึงเรื่องลาออกจากหัวหน้าพรรค ยังพูดไม่ได้มาก เพราะติดข้อกฎหมาย

เมื่อถามว่า ในอนาคต พรรคชาติพัฒนามีโอกาสที่จะเชิญคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กับสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย หรือไม่? สุวัจน์ กล่าวว่า วันนี้เริ่มต้นที่กรณ์ก่อน แต่ท่านอื่นๆ ตอนนี้ยังตอบแทนไม่ได้ แต่วันนี้เราต้องหันหน้าเข้าหากัน ตอนนี้พรรคชาติพัฒนาตั้งเป้าว่าอยากเห็นบทบาทของพรรคกลับมาเหมือนอดีต เป็นพรรคใหญ่ ลดความขัดแย้ง สร้างเสถียรภาพทางการเมืองได้ เพราะฉะนั้นใครที่เข้ามาแก้ปัญหาให้ประเทศได้ เราก็ยินดีต้อนรับ