เป็นธรรมดาที่พ่อแม่หลายคนอยากให้ลูกของตัวเองเป็นเด็กฉลาดและประสบความสำเร็จ จึงมักทำตามคำแนะนำผู้เชี่ยวชาญบางคนที่บอกว่าต้องให้เด็กเรียนโค้ดดิ้ง คือ การเขียนชุดคำสั่งของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ด้วยโค้ด (Code) เพื่อให้โรแกรมทำตามคำสั่ง ในขณะที่การวิจัยใหม่กลับพบว่า การเรียนดนตรีต่างหากที่เป็นประตูสู่ความฉลาดของเด็ก
การเรียนโค้ดดิ้ง เป็นความได้เปรียบเมื่ออยู่ในแวดวงเทคโนโลยี เพราะการสอนโค้ดดิ้งให้เด็กๆ ช่วยให้การเรียนคณิตศาสตร์และภาษาดีขึ้น แต่กลับผลการศึกษาล่าสุดที่จัดทำโดยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือ MIT และได้รับการตีพิมพ์ใน Journal of Neuroscience แสดงให้เห็นถึงพลังของดนตรีที่พัฒนาสมองของเด็กๆ ได้อย่างไร
งานวิจัยระบุว่า การเรียนดนตรีตั้งแต่วัยเด็กทำให้สมองเชื่อมโยงกันมากขึ้น สมองมีความสามารถทางระบบประสาทในหลายๆ อย่าง ไม่ใช่แค่ดนตรีเท่านั้น สิ่งที่พวกเขาพบในการศึกษาชิ้นนี้ คือ สมองที่ได้เรียนดนตรี สามารถสร้างการเชื่อมต่อที่มีโครงสร้างและใช้งานได้มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้เรียนดนตรี ส่วนงานวิจัยอื่นๆ ได้แสดงให้เห็นว่าบัลเล่ต์ กอล์ฟ และหมากรุกสร้างความสัมพันธ์ที่คล้ายคลึงกัน
และเพื่อทำการศึกษา ทีมวิจัยนำนักดนตรีอาชีพ 103 คน และนักดนตรีสมัครเล่น 50 คนเข้ารับการสแกนสมอง เมื่อสแกนเสร็จแล้วนำมาเปรียบเทียบกัน สิ่งที่พวกเขาพบก็คือนักดนตรีทุกคนมีเครือข่ายสมองที่คล้ายคลึงกันมาก ทั้งยังมีความเชื่อมโยงทางโครงสร้างและการใช้งานมากกว่าผู้ที่ไม่ใช่นักดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านที่เกี่ยวข้องกับคำพูดและเสียง
ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือการฝึกดนตรีตั้งแต่เนิ่นๆ สามารถช่วยเด็กๆ พัฒนาเส้นทางประสาทที่แข็งแรงขึ้น และในทางกลับกัน ทำให้พวกเขาฉลาดขึ้น
ที่มา : If You Want Smarter Kids Teach Them Music, Not Coding, According To MIT