Skip to main content

ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้หญิงหลายคนเผชิญกับการภาวะการหย่าร้าง หรือเลิกรากับแฟนที่คบหากันมานาน และนั่นอาจทำให้สาวๆ หลายคนที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นแม่คนนั้นต้องดับสูญไปได้ เพราะอายุที่มากขึ้นของพวกเธอเป็นอีกอุปสรรคในการตั้งครรภ์ และเมื่อผนวกกับการแพร่ระบาดของโควิดด้วยแล้ว การจะออกไปเที่ยวแฮงค์เอาท์ หรือการนัดเจอใครสักคนก็ดูเป็นเรื่องยากเข้าไปอีก และสาวๆ บางคนก็ไม่ได้อยากรีบร้อนในความสัมพันธ์เท่าไหร่ ด้วยอายุและประสบการณ์ชีวิตทำให้พวกเธอคิดมากขึ้น แต่นั่นอาจทำให้ระบบเจริญพันธุ์ของพวกเธอมีปัญหาได้

ในช่วงนี้เองที่ผู้หญิงหลายคนหันไปให้ความสนใจกับการแช่แข็งไข่ของพวกเธอไว้ เพื่อเก็บไข่ที่ยังมีสภาพสมบูรณ์จากช่วงอายุที่พอเหมาะไว้ใช้ในอนาคต และจากรายงานของ บีบีซี บอกว่าวงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีสาวๆ สอบถามสถานพยาบาลเกี่ยวกับการฝากไข่แช่แข็งเพิ่มมากขึ้น เช่นในสหรัฐฯ ตัวเลขการเก็บไข่แช่แข็งของสาวๆ เพิ่มขึ้นจาก 39 % จากช่วงก่อนที่จะมีการแพร่ ส่วนในประเทศอังกฤษมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้นถึง 50% ในช่วงฤดูร้อนปี 2020 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 

ปรากฎการณ์ฝากไข่จึงได้รับความนิยมในกลุ่มสาวๆ ในช่วงที่การแพร่ระบาดเข้ามาเป็นปัจจัยในการสร้างครอบครัวของพวกเธอ บางคู่ชะลอการมีลูกออกไปเนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ไม่มั่นคง การเก็บไข่และรักษาระบบภาวะเจริญพันธุ์อาจเหมือนเป็นการช่วยชีวิตพวกเขาเหล่านั้น 

การเก็บรักษาไข่ เป็นการรักษาระบบเจริญพันธุ์แบบหนึ่ง ถูกพัฒนาขึ้นในทศวรรษ 1980 เป็นการออกแบบมาเพื่อช่วยผู้หญิงที่มีอาการป่วยร้ายแรง ที่ต้องรับการรักษา และอาจอันตรายต่อระบบเจริญพันธุ์ เป็นการช่วยเพิ่มโอการการมีลูกให้กับพวกเธอ แต่ต่อมาการแช่แข็งไข่ได้รับความนิยมมากขึ้นไม่เฉพาะกับผู้หญิงที่ป่วยเท่านั้น เป็นการเพิ่มโอกาสการมีบุตรให้พวกเธอมากขึ้น

ผู้หญิงที่สนใจเก็บไข่ของตัวเองแช่แข็งไว้ ส่วนใหญ่มักโสด อายุระหว่าง 36-40 ปี ชาวคอเคเซียน ที่มีระดับการศึกษาสูง และมีการงานทำที่มั่นคง สถานะทางการเงินดี เพราะการเก็บไข่แช่แข็งนั้นราคาสูงพอสมควร ค่าใช้จ่ายการเก็บไข่ในอังกฤษอยู่ราวๆ 8,520 ดอลลาร์ - 9,740 ดอลลาร์ (ราว 303,000 - 346,000 บาท) ส่วนในสหรัฐฯ จะอยู่ระหว่าง 10,000 - 20,000 ดอลลาร์ (ราว 365,000 - 712,000 บาท) 

ด้วยค่าใช้จ่ายที่แสนแพงนี้ ทำให้บริษัทที่รับฝากไข่บางแห่งให้เป็นสวัสดิการกับลูกจ้างผู้หญิง และมีบางบริษัทสตาร์ตอัพบางที่ให้เสนอการฝากไข่ให้เป็นสวัสดิการดึงดูดคนเข้ามาทำงานอีกด้วย เพราะอยากให้พนักงานทำงานหนักขึ้นและไม่วอกแวกออกไปมีครอบครัว แต่ปัจจุบันกลุ่มผู้หญิงที่เข้ารับการแช่แข็งไข่ตัวเองขยายวงกว้างขึ้น 

การแช่แข็งไข่มาพร้อมกับผู้หญิงพร้อมเป็นแม่คนเมื่ออายุมากขึ้นและเทคโนโลยีการตั้งครรภ์ที่ก้าวหน้า ในประเทศอังกฤษอายุเฉลี่ยของการเป็นแม่คนเพิ่มขึ้นตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 และขณะนี้อยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 30.7 ปี ในสหรัฐอเมริกา จำนวนผู้หญิงที่คลอดบุตรที่มีอายุมากกว่า 40 ปีสูงเป็นประวัติการณ์ด้วย

นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่นๆ เช่น การเพิ่มขึ้นของการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการปรับปรุงการศึกษาและการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงาน ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสและทางเลือกมากขึ้น ในทางกลับกัน นโยบายครอบครัวที่ย่ำแย่ เช่น การขาดการดูแลเด็กที่ได้รับทุนจากรัฐ ที่อยู่อาศัยที่ราคาเกินเอื้อมถึงมากขึ้นเรื่อยๆ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้หญิงจำนวนมากรู้สึกว่าไม่สามารถมีบุตรได้ แม้ว่าจะพร้อมสำหรับการเป็นแม่ก็ตาม

ข้อมูลจากเดือน เม.ย. 2022 ของ Pew Research Center แสดงให้เห็นว่า 3 ใน 4 ของประชากรสหรัฐฯ บอกว่า การจะออกเดตกับใครสักคนแต่ละครั้งนั้นยากขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดเช่นนี้ ทำให้หลายคนมีความกังวลกับการหาคู่ อีกทั้งการทำงานที่ยืดหยุ่นและเลือกทำงานที่ไหนก็ได้ ทำให้พวกผู้หญิงสามารถนัดวันเพื่อเก็บไข่ของพวกเธอได้ง่ายขึ้น ทำให้ต่อไปข้างหน้าเราอาจได้เห็นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในช่วงอายุ 30 ปลายๆ จนถึง 40 ตอนต้นก็เป็นได้

อ่านบทความฉบับเต็มที่ : The sharp rise in egg freezing