บริเวณ หมวดทางหลวงบางปะอิน ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธี “เริ่มต้นใช้ความเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ช่วงหมวดทางหลวงบางปะอิน-ทางต่างระดับอ่างทอง)” ร่วมด้วย ชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม สราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง โดยมี ปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

ศักดิ์สยาม กล่าวว่า ประกาศกฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วฉบับใหม่ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยเส้นทางแรกที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการใช้ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คือ ทางหลวงหมายเลข 32 หรือถนนสายเอเชีย ช่วงหมวดทางหลวงบางปะอิน ถึง ทางต่างระดับอ่างทอง เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ใช้อัตราความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ที่สำคัญคือ มีความปลอดภัยสูง 

กระทรวงคมนาคมยังได้สั่งการและเน้นย้ำให้กรมทางหลวงปรับปรุงเพิ่มมาตรฐานทางกายภาพให้เกิดความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ได้แก่ เสริมการก่อสร้างอุปกรณ์ป้องกันด้านข้างทาง (Concrete Barrier) เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงเนื่องจากการเสียหลักตกเกาะกลาง ปรับปรุงจุดกลับรถระดับราบ เพื่อลดการตัดกันของกระแสจราจร ติดตั้งป้ายจราจรและป้ายเปลี่ยนข้อความได้เพื่อสื่อสารการใช้ความเร็วที่เหมาะสมในแต่ละช่องจราจร รวมทั้งติดตั้งแถบเตือน Rumble Strips เพื่อแจ้งจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดการเข้าเขตควบคุมความเร็ว โดยเส้นทางนี้ ถือเป็น “ต้นแบบ” ของทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบท 

โดยกรมทางหลวงมีแผนจะประกาศใช้สายทางในระยะที่ 2 ภายในเดือนสิงหาคม 2564 นี้ ครอบคลุมเส้นทางในภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ระยะทางประมาณ 260 กิโลเมตร เช่น ทางหลวงหมายเลข 32 ช่วง อ่างทอง - สิงหบุรี ทางหลวงหมายเลข 1 ช่วงหางน้ำหนองแขม - นครสวรรค์ ทางหลวงหมายเลข 2 ตอนบ่อทอง-มอจะบก และทางหลวงหมายเลข 4 ช่วง เขาวัง-สระพระ เป็นต้น พร้อมทั้งดำเนินการต่อเนื่องเพิ่มเติมบนทางหลวงสายหลัก เช่น ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธิน ทางหลวงหมายเลข 2 มิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 24 สีคิ้ว-อุบลราชธานี ทางหลวงหมายเลข 340 บางบัวทอง -สุพรรณบุรี  และทางหลวงหมายเลข 44 กระบี่-ขนอม อีกประมาณ 1,760 กิโลเมตร ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นไป 

ศักดิ์สยาม กล่าวว่า การกำหนดอัตราความเร็วรถเป็น 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนถนนสายเอเชียนั้น จะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดและปัญหาอุบัติเหตที่เกิดจากการชนท้ายหรือการเปลี่ยนช่องจราจร อันเนื่องมาจากรถวิ่งด้วยความเร็วที่แตกต่างปะปนกันไป ไม่เป็นระเบียบ อีกทั้งยังทำให้ถนนสายเอเชียในอนาคตจะไม่มีจุดกลับรถระดับราบ ส่งผลให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเดินทางได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และปลอดภัยตลอดเส้นทาง และขอให้พี่น้องประชาชนศึกษาข้อมูลเส้นทาง และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยลดปัญหาอุบัติเหตบนท้องถนนในประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน

 

ประธาน สอจร. ห่วงสงกรานต์เกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้น

นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือองค์การอนามัยโลก ด้านการป้องกันอุบัติเหตุ และประธานแผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) กล่าวว่า ประกาศดังกล่าวถือเป็นความเสี่ยงแสนสาหัส ที่ทำให้เครือข่ายป้องกันอุบัติเหตุกังวลใจ แม้ในรายละเอียดจะกำหนดหลักเกณฑ์และเส้นทางเฉพาะ แต่เชื่อว่าขณะนี้ทุกคนพากันเหยียบ 120 กม./ชม. ไปก่อนแล้ว 

โดยเฉพาะเริ่มมีผลบังคับใช้ ก่อนช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งในปีนี้มีวันหยุดติดต่อกันนานหลายวัน จาก 7 วันอันตราย เพิ่มขึ้นเป็น 9 วันอันตราย ในปีนี้ไม่รู้ว่าจะตายกันเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เนื่องจากการขับรถทางไกลและขับท่องเที่ยว ผู้ขับขี่จะรู้สึกเหนื่อยล้าเป็นพิเศษ และหากพักผ่อนไม่เพียงพอยิ่งเพิ่มความเสี่ยง ดังนั้น เราทุกคนต้องขับไม่ประมาทและมีสติอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญขอให้ลดใช้ความเร็วลงสักนิดจะช่วยให้ปลอดภัยมากขึ้น

 

กู้ภัยอ่างทองร่วม 400 คน พร้อมเฝ้าระวังจุดเสี่ยง 

ผู้สื่อข่าว 'ดิ โอเพนเนอร์' ได้สอบถามกับ มณเทียร อ่อนสกุล นายกสมาคมกู้ภัย จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า การใช้ความเร็วในถนนดังกล่าวเข้ามาในเขตจังหวัดอ่างทอง เพียง 1 กิโลเมตร ยังไม่พบอุบัติเหตุ แต่จะสังเกตว่าเมื่อเข้าเขตมาแล้ว ผู้ขับรถยนต์ไม่ได้ลดความเร็วลง

ที่ผ่านมาใน จ.อ่างทอง ทั้งถนนสายหลักและสายรอง แต่ละเดือนมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นประมาณ 100 ครั้ง และช่วงเทศกาลถนนสายรองเกิดอุบัติเหตุมากกว่า เพราะคนขับไม่ชินทาง ส่วนถนนสายหลักการจราจรค่อนข้างหนาแน่น รถจึงไม่สามารถใช้ความเร็วได้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุจึงไม่หนักมาก  

ทั้งนี้ช่วงสงกรานต์ สมาคมกู้ภัย จ.อ่างทอง มีกำลังอาสาสมัครในเครือข่ายประมาณ 400 คน ทำงานประสานรวมตำรวจ ป้องกันสาธารณภัยจังหวัด และโรงพยาบาลเฝ้าระวังจุดเสี่ยง ซึ่งมีหลายจุดสำคัญ อาทิ ถนน 309 อ่างทอง-อ.โมก , ถนน 3195  อ่างทอง-สุพรรณบุรี , ถนน 3064 อ.โพธิ์ทอง - อ.แสวงหา เพิ่งปรับจากเดิมสองเลนสวน เป็นสี่เลนไปสองเลนกลับสองเลน