Skip to main content

จากกรณี เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งข้อกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์เอกชนในโครงการร่วมลงทุนน้ำประปาปทุมธานี-รังสิต ที่จะมีการต่อสัญญาสัมปทานผลิตน้ำประปาขายให้กับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ต่อไปอีก 20 ปี อาจทำให้รัฐเสียหาย และต่อมา พล.อ.อนุพงษ์ ชี้แจงยืนยันว่าไม่มีการต่อสัญญาสัมปทาน โดยจะให้การประปาส่วนภูมิภาครับมาดำเนินการเอง นั้น 

เชตวัน เตือประโคน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.ปทุมธานี ระบุตอนหนึ่งว่า สำหรับสถานการณ์เฉพาะหน้านี้ เห็นด้วยที่ กปภ. ควรรับมาดำเนินการเองตามผลการศึกษา นี่ขนาดยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องของข้อกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ดูแค่ตัวเลขของความคุ้มค่า ต้นทุนหากการประปาส่วนภูมิภาคผลิตเองจะอยู่เพียงแค่ 5.81 บาท ต่อ ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ขณะที่เอกชนเสนอใหม่หากต่อสัญญาสัมปทาน ลดให้ 2 บาท  จะอยู่ที่ 10.20 บาท ต่อ ลบ.ม. จะเห็นว่าต่างกันถึง 4.39 บาท  ต่อ ลบ.ม.เลยทีเดียว และถ้ายิ่งถ้าไปดู การที่เอกชนเสนอจ่ายค่าเช่าระบบผลิตน้ำประปา มูลค่า 1,500 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา 20 ปี คิดคำนวนแล้วพบว่าค่าเช่าเฉลี่ยตกอยู่ที่ราวเดือนละ 6 ล้านบาท ขณะที่ ณ ปัจุบันนี้ที่สัญญาเดิม เอกชนขายน้ำให้กับการประปาส่วนภูมิภาคได้เดือนถึงเดือนละ 150 ล้านบาท ถึงตรงนี้ คิดอย่างง่ายๆ ก็คือ ทำไมต้องไปรับเงินค่าเช่าเดือนละ 6 ล้านบาท ถ้าสามารถผลิตเองแล้วไม่ต้องเสียเดือนละ 150 ล้านบาท  แน่นอนว่าอาจจะบอกว่ามีค่าบริหารจัดการต่างๆ อีกสารพัด แต่ตัวเลข 6 ล้าน กับ 150 ล้าน นั้น น่าจะเป็นตัวเลขที่เทียบกันไม่ได้เลย และยิ่งไม่เป็นเหตุเป็นผลด้วยหากจะบอกว่าคนการประปาไม่มีความรู้ ซึ่งโต้ง่ายๆ ก็คือ ก็ไปหาผู้รู้ หรือไปทำให้มีความรู้ในการบริหารจัดการเรื่องนี้ ส่วนต่างของเม็ดเงินตรงนี้เอาไปใช้หาคน หาความรู้ได้สารพัด
 
"ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับวิศวกรน้ำที่ไปช่วยดูแลระบบน้ำประปาของเทศบาลตำบลอาจสามารถ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด มีโอกาสได้ไปเยือนโรงประปาก็หลายครั้ง ได้ยินบ่อยๆ กับคำว่า ระบบประปาไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรซับซ้อน ขึ้นอยู่กับว่าใส่ใจที่จะทำให้มันดีหรือไม่ และแน่นอน ความใส่ใจของ เทพพร จำปานวน นายกเทศมนตรีตำบลอาจสามารถ ก็ทำให้น้ำประปาของท้องถิ่นแห่งนี้สามารถดื่มได้เป็นที่ประจักษ์แล้ว  ดังนั้น อย่าว่าแต่การประปาส่วนภูมิภาคเลย ที่สุดแล้วผมมั่นใจว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่างในที่นี้ก็คือ องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ก็สามารถที่จะดูแลระบบประปานี้ได้ ถ้าให้อำนาจ งบประมาณ และบุคคลากร อย่างเป็นธรรมและเพียงพอ และแน่นอนว่านั่นคือปลายทางที่เราอยากเห็น" เชตวัน ระบุ