Skip to main content

วันนี้ (17 มิ.ย.) กลุ่มนิติฮับ (Nitihub) สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) และทนายความหญิงที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง เดินทางไปยังเนติบัณฑิตยสภา เพื่อถามความคืบหน้าต่อคณะกรรมกรเข้าหน้าที่เนติบัณฑิตยสภา กรณีที่ทางกลุ่มจัดแคมเปญเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระเบียบที่กำหนดให้ทนายความหญิงสามารถสวมกางเกงไปศาลได้ 

หลังจากที่ผ่านมา เวลาทนายความหญิง ซึ่งเป็นสมาชิกเนติบัณฑิตยสภาและสภาทนายความ ถูกผู้พิพากษาตักเตือน ถูกตำหนิติเตียน ถูกเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเหตุแห่งการแต่งกาย หรือถูกห้ามว่าความ เนื่องจากสวมใส่กางเกงไปศาล เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง เนื่องจากกฎเกณฑ์ที่ไม่ชัดเจนของสภาทนายความ ที่ระบุไว้ในข้อที่ 20 ของข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยเรื่องมรรยาททนายความ ที่ให้ทนายความหญิงต้อง “แต่งตามแบบสากลนิยม กระโปรงและเสื้อสีไม่ฉูดฉาด รองเท้าหุ้มส้น” รวมทั้งข้อบังคับเนติบัณฑิตยสภาฯ หมวด 3 สิทธิของสมาชิก ข้อ 17 ที่กำหนดให้ทนายความหญิงต้องแต่งกายด้วยกระโปรง ซึ่งกฎเกณฑ์ดังกล่าวไม่สอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยในปัจจุบัน จึงนำมาสู่การเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ทางกลุ่มที่ขับเคลื่อนยังได้นำรายชื่อกว่า 16,500 รายชื่อของนักกฎหมาย และประชาชนที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนแคมเปญ "ทนายความหญิงมีสิทธิสวมใส่กางเกงไปศาล" ในเว็บไซต์ change.org ไปยื่นร่วมด้วยในวันนี้

การเดินทางมาครั้งนี้ของ นิติฮับ และ สนส. นับเป็นการเคลื่อนไหวครั้งที่ 2 หลังเมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2564 ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานศาลฎีกา สภาทนายความฯ และเนติบัณฑิตยสภามาแล้ว แต่ผ่านมานานกว่า 6 เดือนกลับไม่มีความชัดเจนใดๆ เกี่ยวกับการแก้ไขข้อบังคับดังกล่าว และทนายหญิงยังต้องเผชิญกับปัญหาการแต่งกายไปศาลอยู่ทุกวัน

ขณะที่ ผศ.ดร.ศรีพัชรา​ สิทธิกำจร​  ผอ.กองกลาง​ เนติบัณฑิตยสภา ได้เดินลงมารับหนังสือ พร้อมยืนยันว่า​ จะติดตามความคืบหน้าต่อไป​ แต่ทราบเรื่องว่าขณะนี้มีการยื่นร้องต่อศาลปกครองแล้ว​เมื่อหลายเดือนก่อน​ ทางเนติบัณฑิตยสภา​ จึงอาจต้องรอคำวินิจฉัยของศาลก่อนจะพิจารณาเกี่ยวกับการแก้ไขข้อบังคับต่อไป