Skip to main content

 

Libertus Machinus
 


ทุกวันนี้ในหลายประเทศ ที่อยู่อาศัยตามเมืองใหญ่ๆ ราคาอยู่ในระดับที่เกินเอื้อม แม้แต่กับคนที่ทำงานในเมืองนั้นมาตลอดชีวิต ดังนั้น จึงไม่แปลกที่คนซึ่งมีรายได้สูงๆ ในประเทศเหล่านั้นเลือกจะไปปักหลักที่อื่น ซึ่งบางที "ที่อื่น" ที่ว่าก็มักจะเป็นที่ใกล้ๆ เช่น คนสิงคโปร์มาอยู่มาเลย์หรือไทย ถือเป็นเรื่องปกติมากในการประหยัดค่าครองชีพ

แต่เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องจากอังกฤษของคู่รักชายรักชายคู่หนึ่ง

คู่รักคู่นี้เป็นชาวอังกฤษที่เริ่มเข้าสู่วัยกลางคนและอยากเกษียณ แน่นอนในวัยนี้ถ้าสะสมเงินเอง พวกอพาร์ตเมนต์ในลอนดอนนี่หมดสิทธิ์ เพราะอพาร์ตเมนต์ในลอนดอนทั่วๆ ไป ราคาเริ่มที่ 9 ล้านบาทโดยประมาณ ถ้าหาได้สัก 7 ล้านคือถูกมากแล้ว ซึ่งทั้งสองคนมีเงินไม่พอ

ครั้นจะไปหาที่อยู่ตาม "บ้านนอก" ของอังกฤษ จริงๆ ราคาก็ไม่ได้ถูก เงินประมาณ4-5 ล้านบาท ได้แค่อพาร์ตเมนต์เล็กๆ ในเมืองที่เสื่อมโทรมจัดๆ เท่านั้น

แต่ทั้งคู่ไม่ได้สิ้นหวัง และด้วยการที่ชอบข้ามช่องแคบโดเวอร์ไปเที่ยวตามบ้านนอกของฝรั่งเศสอยู่แล้ว ทำให้ทั้งคู่พบว่า ทางตอนเหนือของฝรั่งเศสที่ห่างจากอังกฤษเพียงนิดเดียว ราคาบ้านและที่ดินถูกไม่ใช่เล่น

ทั้งคู่พยายามหาที่อยู่จนกระทั่งมาสะดุดเจอหมู่บ้านเล็กๆ ที่ประกาศขายแบบเหมาทั้งหมู่บ้าน เรียกว่าได้บ้าน 5 หลังและที่ดินอีก 12 ไร่ ในในราคาเพียง 3.5 ล้านบาท ทั้งคู่มองว่า "ราคาดี" สุดๆ ก็เลยพยายามซื้อจนสำเร็จ

ก็แน่นอน หมู่บ้านนี้มีเหตุผลที่ราคาถูก เพราะอาคารต่างๆ เก่ามาก ที่เก่าสุดคือสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ที่ใหม่สุดคือศตวรรษที่ 19 เรียกว่าต้องรีโนเวตกระจุยกระจาย แต่ทั้งคู่ก็ไม่ย่อท้อ ทำคอนเทนต์มันซะเลย โดยทั้งคู่ก็บันทึกการรีโนเวตนี้ไว้ในโซเชียลมีเดียของตัวเองที่ frenchfarmhouserenowithwine

ความน่าสนใจของเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องราวของที่ดินที่ลอนดอนราคาแพง เพราะถูกซื้อเก็งกำไรรัวๆ โดยคนอินเดีย  (แต่นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง) แต่เพราะว่าเอาเข้าจริงๆ สิ่งที่คนรู้น้อยกว่าก็คือ จริงๆ แล้วในชนบทยุโรปหลายๆ ประเทศ การ "ขายยกหมู่บ้าน" เป็นเรื่องปกติแบบปกติมาก

เราอาจคุ้นกับเรื่องที่ว่า ญี่ปุ่นแจกบ้านฟรีให้คนไปอยู่ อิตาลีมีโครงการบ้าน 1 ยูโรให้คนไปอยู่ ประเด็นคือโครงการพวกนี้เกิดเพราะหมู่บ้านยังไม่ "ตาย" คนยังอยู่ แค่คนอยู่น้อยลงเพราะสังคมผู้สูงอายุ แล้วมันมีบ้านที่ร้างมายาวนาน เค้าอยากได้คนอยู่ เพื่อเพิ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่เพื่อให้หมู่บ้าน "ไม่ตาย"

แต่เคสแบบสเปนและฝรั่งเศสเป็นคนละเรื่อง สองประเทศนี้ เวลาหมู่บ้านตายมันตายๆ จริงๆ คือไม่มีคนอยู่แม้แต่หลังเดียว ดังนั้น ขายบ้านเป็นหลัง คนไม่มีทางซื้อ เลยต้องแบบเลหลังขายหมู่บ้านถูกๆ เลย

คู่รักชาวอังกฤษคู่นี้ ก็ไม่ใช่คนเดียวจากอังกฤษที่ซื้อหมู่บ้านแบบเหมา เพราะจริงๆ มันแทบจะเป็นเทรนด์ของคนอังกฤษระดับที่ Channel 4 มีสารคดีชื่อ Help! We Bought A Village ที่มีมา 3 ซีซั่นแล้ว และราคา 3.5 ล้านบาทก็ไม่ใช่ราคาที่ถูกที่สุด เพราะบางคนในสารคดีก็เหมาหมู่บ้านในราคาไม่ถึง 1 ล้านบาทก็ยังมี

ในสเปนไม่นานมานี้ มีข่าวว่ามีคนอเมริกันซื้อหมู่บ้านแบบเหมาซื้อทั้งหมู่บ้านเลยเหมือนกัน ซึ่งหมู่บ้านนี้ใหญ่ระดับมีบ้าน 40 กว่าหลังก็เลยราคาสูงไปถึง 10 ล้านบาท โดยคนซื้อเค้าก็คิดว่าจะแปลงหมู่บ้านเป็นรีสอร์ตอะไรแบบนั้น

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในแถบชนบทของสังคมที่เป็นสังคมผู้สูงอายุ ประชากรอาจไม่ได้ลด แต่คนที่เข้าไปเพิ่มที่เป็นผู้อพยพก็แทบจะอยู่ในเมืองใหญ่หมด ชนบทไม่มีคนไปเติม แม้แต่หมู่บ้านที่มีแต่คนแก่ก็ต้องร้างไปในที่สุด และก็ต้องถูกเอามาขายแบบถูกๆ

ถ้าจะมีเรื่องที่ตลกร้ายสุดๆ ก็คือ กรณีของสเปน ในขณะที่หมู่บ้านชนบทถูกเอามาขายถูกๆ แต่พวกเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ คนกลับเริ่มไม่มีที่อยู่เพราะอาคารต่างๆ ถูกกว้างซื้อไปทำเป็นที่พักนักท่องเที่ยวกันหมด และความโกรธนักท่องเที่ยวระดับคนสเปนมาประท้วงจนเป็นข่าวต่างๆ ก็มาจากภาวะพวกนี้นี่เอง

 

อ้างอิง
British couple bought entire French village because it was cheaper than a flat in UK
frenchfarmhouserenowithwine
The Best Neighborhoods to Find Flats for Sale in London Under £200k
Help! We Bought A Village
US entrepreneur buys abandoned village in Spain, hoping to turn it into a tourist magnet where others have failed
Man buys entire village in Spain for price of a flat – it even has a church
SI TO IT I bought a whole Spanish village for £260k – it has 44 houses, its own bar and swimming pool
  

อ่านบทความอื่นๆ ของผู้เขียน