เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ “เอไอ” กำลังท้าทายการทำงานของมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ ผลการสำรวจของเวิล์ดอีโคโนมิคฟอรั่ม (WEF) ล่าสุด เผยว่า บริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลกมีแผนที่จะลดจำนวนพนักงานลงร้อยละ 41 ภายใน 5 ปีต่อจากนี้

รายงานเรื่องงานในอนาคตของ WEF เผยว่า ร้อยละ 77 ของบริษัทขนาดใหญ่หลายร้อยแห่งทั่วโลก มีแผนที่จะรีสกิลและอัพสกิลทักษะการทำงานให้กับพนักงานที่ยังทำงานอยู่ในช่วงระหว่างปี 2025 ถึง 2030 เพื่อให้ทำงานควบคู่กับ AI ได้ดียิ่งขึ้น

ผู้บริหารของบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่งระบุว่า เอไอจะทำให้แรงงานมนุษย์หดลงภายใน 5 ปี งานเช่น พนักงานรับพัสดุไปรษณีย์ เลขานุการ และพนักงานบัญชี เป็นอาชีพที่มีการคาดว่าจะมีการจ้างงานลดลงเร็วที่สุดภายในไม่กี่ปีต่อจากนี้ เมื่อเอไอถูกนำมาใช้งานแพร่หลายมากขึ้น

“ตลาดแรงงานจะเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาไปตามความต้องการแรงงานที่สามารถประยุกต์ใช้งานเอไอ และเรื่องพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะผลักดันความต้องการด้านเทคโนโลยีหรือผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก ขณะที่ความต้องการแรงงานด้านอื่นๆ จะลดลง เช่น กราฟิกดีไซเนอร์” รายงานของ WEF เผย

ซาเดีย ซาฮิดี ผู้อำนวยการด้านการจัดการของ WEF เน้นว่า บทบาทของเอไอในการสร้างสิ่งต่างๆ เองได้ เป็นตัวกำหนดรูปร่างหน้าตาใหม่ของอุตสาหกรรมและการทำงานในทุกภาคส่วน เช่น เทคโนโลยีสามารถเขียนบทความต้นฉบับเองได้ หรือสร้างรูปภาพ และคอนเทนต์อื่นๆ ตามคำสั่งของผู้ใช้งาน

“ปัจจุบัน ทั้งกราฟิกดีไซเนอร์และเลขานุการด้านกฎหมาย เพิ่งจะติด 10 อันดับแรกของงานที่ถูกลดความสำคัญลงอย่างรวดเร็วที่สุด อาจเป็นเพราะเอไอมีความสามารถด้านการวาดภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ” รายงานของ WEF ระบุ

ผลการสำรวจของ WEF เผยว่า ทักษะด้านเอไอกำลังเป็นสิ่งที่ตลาดแรงงานมีความต้องการมากขึ้น เกือบร้อยละ 70 ของบริษัทที่ตอบแบบสำรวจ วางแผนการจ้างพนักงานใหม่ที่มีทักษะการออกแบบโดยใช้เครื่องมือเอไอ ขณะที่ร้อยละ 62 ตั้งใจจะรับสมัครคนที่มีทักษะในการทำงานควบคู่กับเอไอ

รายงานยังเผยถึงมุมมองในแง่ดีว่า ผลกระทบเบื้องต้นของเทคโนโลยีต่างๆ ต่อตำแหน่งงาน เช่น การสร้างเนื้อหาและสิ่งอื่นๆ ขึ้นใหม่โดยเอไอ อาจยังต้องพึ่งความสามารถและทักษะของมนุษย์ในการทำให้เอไอทำงานได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการทำงานแบบ “การทำงานร่วมกันของมนุษย์กับระบบจักรกล” มากกว่าการเอามาแทนที่มนุษย์ โดยที่ยังให้ความสำคัญกับ “การให้ทักษะของมนุษย์เป็นศูนย์กลาง”

อย่างไรก็ดี มีแรงงานมนุษย์จำนวนมากที่ถูกแทนที่ด้วยเอไอแล้ว และภายในไม่กี่ปีจากนี้ บริษัทเทคบางแห่ง รวมถึง Dropbox ซึ่งให้บริการพื้นที่เก็บข้อมูล และ Duolingo แอปพลิเคชั่นด้านภาษา ได้ใช้เอไอมาเป็นเหตุผลของการเลิกจ้างพนักงาน  

ที่มา
41% of companies worldwide plan to reduce workforces by 2030 due to AI