Skip to main content

 

เรื่องราวของหนุ่ม “อินโทรเวิร์ท” ชาวอเมริกันผู้มองโลกแง่ร้าย ที่เปลี่ยนความคิดไปเพราะบทเรียนล้ำค่าที่สุนัขร่างใหญ่ใจดีในศูนย์พักพิงสัตว์ซึ่งกำลังหาบ้านมอบให้ ทำให้เขาเรียนรู้ว่า “ความไว้วางใจ” เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะนำมาซึ่งความสุขในชีวิต

ไคลน์ เมลนิค หนุ่มชาวอเมริกันผู้ระบุตัวเองว่าเป็น “อินโทรเวิร์ท” ผู้มองโลกและผู้คนในแง่ร้าย แต่ความคิดของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากหลังใช้เวลาเพียง 1 วันกับ “เฮย์เฮย์” สุนัขใจดีผู้ร่าเริงจากศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยงในวอชิงตันดีซี เขาถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าประทับใจนี้ผ่านเว็บไซต์เดอะวอชิงตันโพสต์

ไคลน์เล่าว่า เขาไม่เคยเป็นเจ้าของสุนัข หรือแม้แต่เลี้ยงสุนัขมาก่อนเลย แต่เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เขาได้ใช้เวลาร่วมกับ “เฮย์เฮย์” เกือบๆ 5 ชั่วโมง ทำให้เขาพบบางสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน นั่นก็คือ การพบว่า “ความไว้วางใจ” เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเป็นที่มาของความสุข

ไคลน์เล่าว่า เจ้าหน้าที่ของ Brandywine Valley SPCA องค์กรสวัสดิภาพสัตว์ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งตั้งอยู่ในทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงวอชิงตัน ติดต่อมาว่าจะส่ง "เฮย์เฮย์" สุนัขตัวผู้สีขาวดำที่ร่าเริงมาอยู่กับเขาหนึ่งวัน ไคลน์บอกว่า เขาหวังว่าจะมอบหนึ่งวันที่แสนสนุกสำหรับการออกมาเที่ยวนอกศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยงให้กับเฮย์เฮย์  

ชื่อ เฮย์เฮย์ มาจากชื่อของถนนเฮย์สตรีทนอร์ทอีส ที่ซึ่งตำรวจพบเจอมันขณะที่อยู่บนถนนสายนั้นนั่นเอง

ไคลน์บอกว่า สำหรับเฮย์เฮย์แล้ว เขาคงเป็นแค่คนแปลกหน้าที่พามันออกจากสถานพักพิงสัตว์ที่คุ้นเคย ไปยังสถานที่แปลกตาอื่นๆ แต่ครั้งแรกที่พบกัน เฮย์เฮย์กลับปฏิบัติกับไคลน์เหมือนเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานาน ซึ่งไคลน์บอกว่า ถ้าเฮย์เฮย์ไม่ทำแบบนั้น ทั้งคู่ก็อาจไม่สามารถต่อกันติดได้ และคงไม่ได้สนุกสนานด้วยกันมากเท่านี้

ไคลน์บอกว่า นอกเหนือเวลาทำงาน เขามักเก็บตัวอยู่กับบ้าน ใช้เวลากับครอบครัว สั่งอาหารและชอปปิ้งเสื้อผ้าทางออนไลน์ และมักหาข้ออ้างที่จะหลีกเลี่ยงการไปพบปะสังสรรค์กับผู้คน เพราะเขาเชื่อว่า คนส่วนใหญ่ที่เขามีปฏิสัมพันธ์ด้วยนั้นเป็นคนที่เห็นแก่ตัว

ในหนึ่งวันที่ไคลน์และเฮย์เฮย์อยู่ด้วยกันนั้น แม่ของไคลน์ขับรถพาทั้งสามชีวิตไปเที่ยวเดินภูเขาที่เกาะคิงแมนแอนด์เฮอร์ริเทจ เวลาที่เฮย์เฮย์เดินผ่านใครก็ตาม มันจะยกเท้าหน้าขึ้นเพื่อเป็นการทักทาย ซึ่งนั่นเป็นการทำให้ไคลน์ได้เริ่มพูดคุยกับผู้คนแปลกหน้าไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรกติเขาไม่เคยทำ และนั่นทำให้เขาเรียนรู้ว่า คนบางคนก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร และส่วนใหญ่พวกเขามีความสุขที่ได้ทักทายเฮย์เฮย์ ซึ่งสวมเสื้อกั๊กสกรีนข้อความว่า “รับชั้นไปเลี้ยงเถอะ”

การออกมาท่องเที่ยวนอกบ้าน ยังทำให้ไคลน์ได้พบเจอกลุ่มคนที่สร้างแรงบันดาลใจ เขาพบกลุ่มเพื่อนที่ช่วยกันถางเอาวัชพืชที่ปกคลุมออกจากป้ายหลุมศพของเพื่อนซึ่งด่วนตายจากไปก่อน

ช่วงที่อยู่บนเกาะ หลังจากเฮย์เฮย์เล่นจนเหนื่อยก็จะมาพักโดยเอาหัววางที่ต้นขาของไคลน์และหลับ ไคลน์บอกว่า หลายชั่วโมงที่เขากับเฮย์เฮย์อยู่ด้วยกัน เฮย์เฮย์คอยเฝ้าระวังให้กับแม่ของไคลน์ตลอดเวลา และคอยเดินตามอยู่ใกล้ๆ เธอ

ไคลน์เล่าว่า ทีแรกเขาค่อนข้างกังวลว่า เฮย์เฮย์จะกัดเขาหรือไม่ เขาจึงบอกกับเฮย์เฮย์ว่าให้เชื่อใจเขา แต่มาถึงตอนนี้ ไคลน์ได้มอบความไว้ใจตอบกลับคืนสู่เฮย์เฮย์แล้ว

หลังจากขับรถพาเฮย์เฮย์กลับไปส่งที่ศูนย์พักพิงในตอนบ่าย เจ้าหน้าที่พาเฮย์เฮย์กลับไปที่กรง ในที่ซึ่งมันกินอาหารเย็นและงีบหลับ จากนั้นเขาและแม่ก็ไปกินอาหารค่ำ ระหว่างนั้นแม่บอกกับเขาว่า น่าจะลองทบทวนเรื่องมิตรภาพกับผู้คนเสียใหม่

ไคลน์บอกว่า ที่ผ่านมาเขามองผู้คนในแง่ร้าย มองว่าคนมักเห็นแก่ตัวและไว้ใจไม่ได้ แต่เมื่อลองคิดถึงความไว้ใจที่เฮย์เฮย์มอบให้ เขารู้สึกว่าเป็นเหมือนของขวัญ เขารับเอาคำแนะนำจากแม่และเห็นด้วยว่า หากเฮย์เฮย์สามารถมอบโอกาสให้กับผู้คนได้ เขาก็ควรทำได้ด้วยเช่นกัน

ไคลน์บอกว่า เขายังคงมีความคิดที่จะรับเฮย์เฮย์มาเลี้ยง หลังจากได้รับอีเมลว่า เฮย์เฮย์ยังคงหาบ้านหลังใหม่ ซึ่งเขาบอกว่า มีความสุขที่ได้อยู่กับเฮย์เฮย์ และรู้ว่า เขาจะแบ่งปันเรื่องราวชีวิตร่วมกับสมาชิกตัวใหม่ของครอบครัว


ที่มา
I’m an introvert. Here’s what I learned from a day with an extroverted dog.