Skip to main content

 

นายแพทย์ เกรียงศักดิ์ เล็กเครือสุวรรณ
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านคลินิกระงับปวด และผ่าตัด ข้อสะโพก ข้อเข่า ข้อไหล่

 


"กระดูกพรุน" เรื่องที่เรามักได้ยินผู้สูงอายุเป็นกังวลกันบ่อยๆ แต่ปัจจุบัน ไม่ใช่แค่เรื่องของคนสูงวัยเท่านั้น วัยรุ่นและวัยทำงานก็เสี่ยงต่อการเป็นกระดูกพรุนได้ ด้วยพฤติกรรมเสี่ยงจากการใช้ชีวิต ที่อาจบั่นทอนความแข็งแรงของมวลกระดูกโดยไม่รู้ตัว

 

ปัจจัยเสี่ยงกระดูกพรุนมีอะไรบ้าง?

 

  • การดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนมากเกินไป กาแฟ ชา อาจช่วยให้มีแรงทำงาน เหล้า เบียร์อาจเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยให้การสังสรรค์สนุกขึ้น แต่หากบริโภคมาก นอกจากส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม ก็ทำให้การดูดซึมแคลเซียมน้อยลง
  • ขาดวิตามินดี หากร่างกายขาดวิตามินดีหรือแสงแดดที่ช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์วิตามินดีในร่างกาย สามารถส่งผลต่อให้กระดูกพรุนได้ เพราะวิตามินดีมีส่วนสำคัญในการสร้างแคลเซียมของกระดูก
  • ขาดการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการออกกำลังกายที่มีแรงกด (weight-bearing exercise) เช่น วิ่ง เดินเร็ว เวทเทรนนิ่ง
  • อดอาหาร/ลดน้ำหนักผิดวิธี ทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็นในการสร้างมวลกระดูก
  • พันธุกรรม คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคกระดูกพรุน หรือมีโรคประจำตัว เช่น ไทรอยด์ เบาหวาน
  • การใช้ยาบางชนิดต่อเนื่อง เช่น ยาสเตียรอยด์ ยากันชัก ยารักษาไทรอยด์
  • ความผิดปกติของฮอร์โมน กระดูกพรุนเสี่ยงเกิดในผู้หญิงมากกว่า เนื่องจากฮอร์โมนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นการสร้างกระดูก เมื่อหมดประจำเดือนผู้หญิงจึงมีความเสี่ยงมวลกระดูกสลายเร็วกว่า และในผู้ชาย กระดูกจะเริ่มบางลงเมื่อฮอร์โมนเพศลดลงตามวัย


การรักษาและป้องกันโรคกระดูกพรุน

 

  • การรักษาและป้องกันโดยไม่ใช้ยา

    • รับแคลเซียมให้เพียงพอ สำหรับวัยผู้ใหญ่ ควรได้รับแคลเซียมต่อวัน 800-1000 มิลลิกรัม ซึ่งพบมากในนม โยเกิร์ต ชีส ปลาเล็ก ถั่ว
    • กระตุ้นการสังเคราะห์วิตามินดี รับแสงแดดอ่อนตอนเช้า 10-15 นาทีต่อวัน เพื่อกระตุ้นการสร้างวิตามินดี และเสริมด้วยอาหาร เช่น ไข่แดง ปลาแซลมอน
    • ออกกำลังกาย เช่น เดินหรือวิ่งอย่างน้อย 30 นาที เล่นเวทเทรนนิ่ง เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กระดูก
    • เลี่ยงปัจจัยทำลายกระดูก ลดกาแฟ ชา เครื่องดื่มคาเฟอีนสูง เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
    • รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป มีผลต่อความแข็งแรงของมวลกระดูก การรับสารอาหารครบถ้วนและออกกำลังกายจึงสำคัญมาก
    • ตรวจสุขภาพและระดับฮอร์โมน โดยเฉพาะผู้ที่มีพันธุกรรมโรคกระดูกพรุนและโรคประจำตัว

 

  • การรักษาโดยใช้ยา

    • ยาลดการสลายของกระดูก (Antiresorptive agents) มีทั้งชนิดรับประทานและฉีดเข้าใต้ชั้นผิวหนังหรือเส้นเลือดดำ
    • ยาที่กระตุ้นการสร้างกระดูก (Anabolic agents) ยาชนิดฉีดที่ต้องฉีดเข้าชั้นใต้ผิวหนังทุกวัน

 

ทั้งนี้วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งตัวผู้ป่วยรวมถึงดุลยพินิจของแพทย์ ดังนั้นการปรึกษาแพทย์ ตรวจมวลกระดูกและตรวจสุขภาพถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน

กระดูกพรุนไม่ใช่เรื่องไกลตัว ที่ผู้สูงอายุควรระวังเท่านั้น การสร้างและรักษามวลกระดูกที่แข็งแรงตั้งแต่อายุยังน้อย ถือเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโรคกระดูกพรุนในอนาคต การดูแลสุขภาพสม่ำเสมอตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเราปัจจุบัน แต่เป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงวัย

 

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม/นัดหมาย
ศูนย์ศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์เฉพาะทาง (Advanced Orthopedics Center) 
ชั้น 2 โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)
โทร 02-836-9999 กด 4 หรือ *2621-2