วันที่ 1 ตุลาคม ถูกกำหนดให้เป็น “วันกาแฟสากล” เพื่อเฉลิมฉลองให้กับคนที่รักการดื่มกาแฟ รวมถึงการสนับสนุนคุณภาพชีวิตของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
ปี 2025 องค์การกาแฟระหว่างประเทศ (ICO) เน้นย้ำถึงความสำคัญของ “การร่วมมือกัน” ในการทำให้การปลูก และผลิต และการดื่มกาแฟ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และร่วมกันทำให้ภาคการผลิตกาแฟเป็นการพัฒนาที่มีความยั่งยืน รวมถึงให้ความสำคัญกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งมีมากมายอยู่นับไม่ถ้วนตลอดห่วงโซ่มูลค่ากาแฟทั่วโลก ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อส่งมอบกาแฟที่ดีเยี่ยมให้กับเราในทุกๆ วัน
กาแฟ นอกจากเป็นเครื่องดื่มยอดนิยม มีงานวิจัยจำนวนมากที่ชี้ว่า กาแฟมีประโยชน์มากกว่าที่คิด ที่อาจปกป้องเราจากโรคที่พบได้บ่อย เช่น อัลไซเมอร์ และโรคหัวใจ
นักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ อธิบายว่า ในกาแฟ นอกจากมี “คาเฟอีน” แล้ว ยังมี “สารต้านอนุมูลอิสระ” และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอื่นๆ ที่ช่วยลดการอักเสบภายในร่างกาย และช่วยป้องกันโรคได้ และมีงานวิจัยล่าสุดพบว่า คนดื่มกาแฟมีโอกาสน้อยกว่าในการเสียชีวิตจาก โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน และโรคไต โดยเฉพาะในผู้หญิง และมีแนวโน้มของการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 น้อยกว่า เนื่องจากร่างกายจัดการกับกลูโคสได้ดีขึ้น
การดื่มกาแฟวันละหนึ่งถึงสองแก้ว อาจช่วยป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหัวใจอ่อนแรงและสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ไม่เพียงพอ รวมถึงช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคพาร์กินสันให้ต่ำลง และยังอาจช่วยให้ผู้ป่วยควบคุมการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้นด้วย
มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า กาแฟมีผลในการปกป้องตับ คนที่ดื่มกาแฟมีแนวโน้มที่ค่าของเอนไซม์ของตับจะอยู่ในเกณฑ์ปกติมากกว่าคนที่ไม่ดื่ม ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยพบว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลงร้อยละ 26
การดื่มการแฟวันละสองแก้ว ยังอาจช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้อย่างมีนัยสำคัญ งานวิจัยพบว่า ผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไปที่ดื่มกาแฟวันละ 2–3 แก้ว มีโอกาสน้อยที่จะเป็นภาวะสมองเสื่อม และสำหรับผู้หญิงที่ดื่มกาแฟอย่างน้อยวันละหนึ่งแก้ว มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองลดลง
แต่ทั้งนี้ การดื่มกาแฟในปริมาณมาก ทำให้ร่างกายรับเอาคาเฟอีนเข้ามามากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการใจสั่นหรือหัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูงขึ้น เกิดความวิตกกังวล หรือการนอนไม่หลับได้
คำถาม คือ แล้วดื่มแค่ไหนถึงจะได้ประโยชน์กับร่างกาย?
Dietary Guidelines for Americans ซึ่งเป็นคำแนะนำด้านโภชนาการจากหน่วยงานรัฐของสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เราสามารถดื่มกาแฟได้วันละ 3–5 แก้ว หรือรับปริมาณคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายไม่เกิน 400 มิลลิกรัม ซึ่งในกาแฟ 1 แก้ว ปริมาณของคาเฟอีนราว 95 มิลลิกรัม แต่อาจมากน้อยต่างกันตามชนิดกาแฟ
สำหรับที่ไวต่อคาเฟอีน อาจดื่มเพียงวันละหนึ่งแก้ว หรือเลือกดื่ม กาแฟ decaf แทน ซึ่งยังคงมีส่วนดีต่อร่างกาย ที่สำคัญ ควรคำนึงถึงสิ่งที่ใส่เพิ่มลงไปในกาแฟ เช่น นมข้นหวาน ครีม และน้ำตาลที่มากเกินไป จะทำให้กาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มที่ไม่ดีต่อสุขภาพได้
กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเมื่อดื่มในปริมาณที่เหมาะสม สามารถลดความเสี่ยงของโรคบางชนิดได้ สิ่งที่ใส่เพิ่มในกาแฟก็สำคัญไม่แพ้กัน หากเลือกสรรสิ่งที่ดีต่อร่างกาย เช่น นมสดในปริมาณเล็กน้อย หรือเครื่องเทศธรรมชาติ กาแฟถ้วยโปรดก็จะยังคงเป็นเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพได้ทุกวัน
วันนี้ คุณได้ดื่มกาแฟแก้วโปรดหรือยัง ?
ที่มา
9 Reasons Why (the Right Amount of) Coffee Is Good for You
ABOUT INTERNATIONAL COFFEE DAY