“การแสร้งว่ามีงานทำ” กำลังเป็นที่นิยมในบรรดาคนรุ่นใหม่จีน โดยเฉพาะช่วงหลังโควิดที่เศรษฐกิจจีนอยู่ในสภาวะเซื่องซึม ไม่ฟื้นตัว จำนวนคนรุ่นใหม่และนักศึกษาจบใหม่ที่หางานทำไม่ได้สูงถึงร้อยละ 14
สภาพดังกล่าว ทำให้คนรุ่นใหม่ของจีนอยากจ่ายเงินเพื่อให้ได้ไปอยู่ในออฟฟิศแม้จะไม่ใช่ออฟฟิศจริงๆ มากกว่าการต้องที่ต้องติดแหง็กอยู่ภายในบ้าน
ฉุ่ย โจว หนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่ยอมจ่ายเงินเพื่อให้ได้มานั่งในออฟฟิศแบบที่ว่านี้ หลังจากที่ธุรกิจอาหารของเขาล้มเหลวในปี 2024 เขาเริ่มมาใช้บริการโดยจ่ายเงินวันละ 30 หยวน หรือตกราว 135 บาทเพื่อเข้ามานั่งในออฟฟิศที่จำลองขึ้น ซึ่งที่นี่ทำให้เขาได้พบเพื่อนที่อยู่ในสภาพเดียวกันอีก 5 คน
“ผมมีความสุขมากๆ เลย มันทำให้รู้สึกเหมือนกับเรากำลังทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม” ฉุ่ย กล่าว
ออฟฟิศจำลอง หรือออฟฟิศปลอมนี้ เป็นธุรกิจใหม่ที่ดำเนินการโดยบริษัทชื่อ Pretend To Work ในเมืองตงกวน มณฑลกวางตุ้ง ที่สร้างออฟฟิศแบบหลอกๆ เพื่อให้บริการคนไม่มีงานทำได้เข้ามานั่งทำงานเสมือนคนที่มีงานทำ โดยที่ออฟฟิศปลอมลักษณะนี้ กำลังปรากฏขึ้นตามเมืองใหญ่ต่างๆ ของจีน ทั้งเสิ่นเจิ้น เซี่ยงไฮ้ นานจิง อู่ฮั่น เฉิงตู และคุนหมิง ส่วนใหญ่มักดูเหมือนสำนักงานจริงๆ ที่มีทั้งคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ห้องประชุม ห้องพักดื่มชา และข้าวของเครื่องใช้สำนักงานต่างๆ เต็มรูปแบบ
คนที่มาใช้บริการ นอกจากแสร้งว่ากำลังทำงานแล้ว ยังสามารถใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตบริการให้ใช้สำหรับการหางาน หรือลองเริ่มธุรกิจสตาร์ทอัพของตัวเอง โดยค่าบริการจะอยู่ระหว่าง 30 ถึง 50 หยวนต่อวัน ซึ่งราคานี้รวมอาหารกลางวัน ของว่าง และเครื่องดื่มต่างๆ เอาไว้แล้ว
ฉุ่ย ซึ่งเข้ามานั่งในออฟฟิศจำลองมานานกว่า 3 เดือนแล้ว บอกว่า เขารู้สึกว่าสภาพแวดล้อมของความเป็นสำนักงาน ช่วยทำให้เขามีวินัย เขาส่งภาพถ่ายของตัวเองในสำนักงานจำลองไปให้พ่อแม่ เพื่อทำให้พวกท่านสบายใจ และบอกว่ามันช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นในระหว่างที่ยังไม่มีงานทำ
ออฟฟิศจำลองไม่จำกัดเวลาเข้า-ออก ซึ่งปรกติฉู่จะมาถึงออฟฟิศราว 8 หรือ 9 โมงเช้า และบางครั้งจะอยู่ไปจนถึง 5 ทุ่ม เขาเล่าว่า ตอนนี้เขารู้จักเพื่อนใหม่ และใช้เวลาว่างจากการหางาน พูดคุยเรื่องตลก เล่นเกม และมักไปกินอาหารค่ำด้วยกันหลังเลิกงาน ซึ่งเขารู้สึกเหมือนเป็นการสร้างทีมทำงาน และมีความสุขมากกว่าก่อนหน้านี้
เช่นเดียวกับ ถัง เสี่ยวเหวิน ที่เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว เธอเช่าที่นั่งทำงานในออฟฟิศจำลองในเซี่ยงไฮ้เป็นเวลา 1 เดือนในระหว่างที่ยังหางานประจำทำไม่ได้ ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยของเธอมีเงื่อนไขว่า นักศึกษาที่เรียนจบแล้วจะต้องได้รับการเซ็นสัญญาจ้างงาน หรือไม่ก็ต้องได้ฝึกงานภายในระยะเวลา 1 ปี ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับใบปริญญาบัตร
เธอจึงเช่าที่ทำงานหลอก เพื่อพิสูจน์ว่าได้ฝึกงานแล้ว โดยที่ความจริงเธอเช่าสถานที่เพื่อเขียนนิยายออนไลน์แลกกับเงินตอบแทนจำนวนเล็กน้อย
“ถ้าคุณจะหลอก ก็ต้องหลอกต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเรื่องมันจบ” ถังกล่าว
ดร.คริสเตียน เหยา อาจารย์คณะการจัดการที่ มหาวิทยาลัยวิคตอเรีย ในนิวซีแลนด์ ซึ่งเชี่ยวชาญในเรื่องเศรษฐกิจจีนบอกว่า ปรากฎการณ์คนแสร้งว่ามีงานทำนี้เป็นเรื่องที่ปรกติมากในประเทศจีนทุกวันนี้
“ในช่วงของการปรับเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ และนักศึกษาที่เรียนจบมาไม่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน คนรุ่นใหม่จำเป็นมีสถานที่แบบนี้สำหรับให้พวกเขาได้ใช้เวลาขบคิดเกี่ยวกับก้าวต่อไปของชีวิต บริษัทที่ทำออฟฟิศหลอกๆ นี้ก็เป็นหนึ่งในทางออกระหว่างการเปลี่ยนผ่านนี้” ดร.เหยากล่าว
ขณะที่ ดร.เบียว เซียง ผู้อำนวยการ สถาบันมักซ์พลังค์ เพื่อมานุษยวิทยาทางสังคม ในเยอรมนี บอกกว่า เทรนด์ของการแสร้งว่ามีงานทำที่เกิดขึ้นในจีน เกิดจากความรู้สึกคับข้องใจและการไร้ซึ่งอำนาจ ที่เกิดจากการไม่มีโอกาสในการได้งานทำ
เฟ่ยหยู เจ้าของบริษัท Pretend To Work วัย 30 ปี บอกว่า สิ่งที่เขาขายไม่ใช่สถานที่ทำงาน แต่เป็นการนำเสนอ “ศักดิ์ศรี” ให้กับคนที่ยังหางานไม่ได้ เพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องกลายเป็นคนที่รู้สึกว่าตัวเองไร้คุณค่า
ในอดีตเฟ่ยหยูเองก็เคยตกอยู่ในสภาพของคนไร้งาน หลังกิจการต้องปิดตัวลงในช่วงโควิด เขากดดันอย่างมาก และเริ่มทำลายตัวเอง เขาบอกว่า อยากที่พลิกสถานการณ์ แต่ก็ไม่มีพลังที่จะทำ
เดือนเมษายนปี 2025 เขาจึงเริ่มต้นโฆษณา Pretend To Work และปรากฏว่าภายในเดือนเดียว ที่นั่งทำงานในออฟฟิศจำลองของเขาก็มีคนมาใช้บริการจนเต็ม
เฟ่ยหยูบอกว่า ร้อยละ 40 ของลูกค้า เป็นคนที่เพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย และต้องการถ่ายภาพในสำนักงานเพื่อแสดงว่าผ่านประสบการณ์ฝึกงานในบริษัทแล้ว ขณะที่ก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งมาที่นี่ ด้วยสาเหตุว่า เพื่อรับมือกับแรงกดดันและการตั้งคำถามจากพ่อแม่
ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่ อีกร้อยละ 60 กลับกลายเป็นฟรีแลนซ์ โดยมากเป็นดิจิทัลโนแมด มีทั้งคนที่ทำงานกับบริษัทใหญ่ และนักเขียนบนโลกไซเบอร์ ซึ่งอายุเฉลี่ยของลูกค้าอยู่ที่ 30 ปี
“ออฟฟิศจำลองถูกใช้โกหกเพื่อทำให้คนได้รับการยอมรับ แต่มันก็ทำให้คนได้ค้นหาความจริงด้วย เราเพียงแค่ร่วมตบตาในแบบที่สุภาพ มีเพียงการช่วยให้พวกเขาเปลี่ยนผ่านจากที่ทำงานปลอม ให้กลายเป็นจุดเริ่มที่แท้จริงเท่านั้น ที่จะทำให้การทดลองทางสังคมครั้งนี้สามารถบรรลุเป้าหมายที่แท้จริงของมันได้จริง” เจ้าของ Pretend To Work กล่าว
ที่มา
China's unemployed young adults who are pretending to have jobs